นานาชาติยกนิ้วระบบสุขภาพไทยคุมโควิดมีประสิทธิภาพ อนุทิน ปลื้ม! นำ ปท.ผงาดเวทีโลก
วันนี้ (25 พฤษภาคม 2565) นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสมัชชาอนามัยโลก ที่นครเจนีวา สหพันธรัฐสวิส ซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เข้าร่วมหารือว่า กิจกรรมที่เกิดขึ้น นายอนุทิน รับเลือกให้ขึ้นพูดกลางที่ประชุมใหญ่ ในประเด็นของสุขภาพ และสันติภาพ ซึ่งถือเป็นโอกาสของไทย ในการแสดงจุดยืนเรื่องการต่อต้านสงคราม และเรียกร้องให้นานาชาติ ช่วยเหลือเหยื่อของการสู้รบ ซึ่งประเทศไทยดำเนินตามหลักมนุษยธรรมอยู่ตลอด
“นอกจากนั้น นายอนุทิน ยังได้ถ่ายทอดเรื่องราวของระบบหลักประกันถ้วนหน้า ที่สร้างความทัดเทียมด้านสาธารณสุขให้กับประชาชน ซึ่งช่วยยุติปัญหา ความขัดแย้ง แก่งแย่ง อันเกิดจากความเจ็บไข้ได้ป่วย ทั้งนี้ นายอนุทิน ยืนยันในความจำเป็นว่าระบบหลักประกันสุขภาพ ต้องมีอยู่ต่อไป เพราะถือเป็นสิทธิ์พึงได้ของประชาชน ใครจะมาพรากไปไม่ได้ เช่นนี้แล้ว แม้จะมีเสียงกระซิบให้ยกเลิกเพราะสิ้นเปลืองงบประมาณ แต่รัฐมนตรีทำตรงข้าม เพราะนอกจากจะไม่เคยคิดจะล้มเลิก ยังได้พัฒนาสิทธิ์การรักษาเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการตรวจรักษาโรคโควิด-19, การรักษาโรคหายาก, ฟอกไตฟรี 30บาท รักษาทุกที่ และล่าสุดคือสวัสดิการผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และได้ขอให้องค์การอนามัยโลก นำความก้าวหน้าของไทย ไปปรับใช้กับนานาชาติ เมื่อทำสำเร็จ จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ ลดความขัดแย้งด้านเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสาธารณะ ตามพื้นที่ต่างๆ” นายพลพีร์ กล่าว
รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า หลักการนี้ ได้รับคำชื่นชมจากนานาชาติ และมีการขอเข้ามาหารือในการนำระบบของ สธ.ไทย ไปใช้ปรับปรุงในประเทศของเขา ซึ่งเราพร้อม สนับสนุนอย่างเต็มที่
“ในเวทีนี้ ประเทศไทยมาในฐานะของประเทศที่สามารถควบคุมโควิด-19 ได้ดีเยี่ยว เรามาอย่างมีความสุข เพราะทุกชาติให้การยอมรับ เราไม่เคยปล่อยให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูง จนระบบเราล่มสลาย เช่นกัน เราก็ไม่กดยอด จนระบบเศรษฐกิจ ต้องพังทลาย นี่คือสาเหตุ ที่ทำให้ทั่วโลก ยกนิ้วโป้งให้ประเทศไทย ระหว่างการสู้รบกับโควิด-19 นายอนุทิน ต้องตั้งรับกับแรงเสียดทานทางการเมือง แต่ที่สุด ก็พิสูจน์แล้วว่า ท่านได้เลือก และทำอย่างดีที่สุด โดยท่านเชื่อหมอเป็นหลัก เราถึงได้ผ่านพ้นวิกฤตมาได้ ที่ต้องไม่ลืมขอบคุณ คือ ความร่วมมือของประชาชน ตอนนี้ ไทยเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านสาธารณสุขแล้ว ทุกวงประชุม นายอนุทินจะย้ำที่จุดนี้ และเชื้อเชิญให้นานาชาติ มาลงทุนที่ไทย เวทีที่เจนีวา เป็นกระบอกเสียงยืนยันว่าเรื่องระบบสาธารณสุข ไม่มีใครเหนือกว่าไทยอีกแล้ว” นายพลพีร์ กล่าว
