ศบค.ยันโควิดไทยดีขึ้น สถานบันเทิงโซนฟ้า-เขียว ผ่านประเมินกว่า 3 พันแห่ง

ศบค.ยันโควิดไทยดีขึ้น สถานบันเทิงโซนฟ้า-เขียว ผ่านประเมินกว่า 3 พันแห่ง ลดแถลง 2 ครั้ง/เดือน

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า หลังจากประเทศไทยมีการผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศ เริ่มเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยคนไทยไม่ต้องลงทะเบียนไทยแลนด์พาสแล้ว ใช้เพียงหลักฐานการฉีดวัคซีนเท่านั้น ส่วนต่างชาติ กรณีที่ฉีดวัคซีนแล้วให้ใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีน บวกกับการทำประกันชีวิตอย่างน้อย 10,000 เหรียญสหรัฐ ร่วมกับพาสปอร์ต กรณีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนก็สามารถเข้าไทยได้ แต่ต้องผ่านระบบการตรวจ RT-PCR เป็นลบอย่างน้อย 72 ชั่วโมงก่อนเข้าประเทศ หรือหากไม่ได้มีการตรวจมาก่อน เมื่อมาถึงประเทศไทยต้องมีการตรวจ ATK โดยเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ ร่วมกับทำประกันชีวิตอย่างน้อย 10,000 เหรียญสหรัฐ และพาสปอร์ต

“ซึ่งข้อมูลวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านทางอากาศ 19,767 ราย ในจำนวนนี้ฉีดวัคซีนครบ 19,713 ราย ไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่มีการตรวจเชื้อก่อนเข้าประเทศ และตรวจ ATK เมื่อถึงไทย 54 ราย ส่วนผู้เดินทางเข้าประเทศทางบก 34 ด่านพรมแดน มีการตรวจ ATK พบว่ามีการติดเชื้อ 2 ราย ซึ่งอยู่ในระบบรายงานและดูแลแล้ว ดังนั้น การปรับระบบการเข้าประเทศแล้ว มีผู้ติดเชื้อน้อยมาก” พญ.สุมนีกล่าว

พญ.สุมนีกล่าวต่อไปว่า สำหรับการเปิดสถานบันเทิง หรือสถานที่คล้ายผับ บาร์ คาราโอเกะ ในพื้นที่สีเขียว 14 จังหวัด สีฟ้า 17 จังหวัด ซึ่งอนุญาตให้จำหน่าย และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 24.00 น. เริ่มวันแรกวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ในช่วงค่ำวันที่ 1 มิถุนายน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. และ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้สุ่มเยี่ยม ตรวจสถานบันเทิงย่านสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร ว่ามีมาตรการควบคุมโรคหรือไม่ คือ Thai Stop Covid 2 Plus โดยพนักงานต้องได้รับวัคซีนครบทั้งเข็มกระตุ้น มีการตรวจ ATK

Advertisement

“ล่าสุด กรมอนามัยได้รายงานในที่ประชุม EOC สธ.ว่า มีจำนวนสถานบันเทิงทั่วประเทศ ได้รับการประเมินเมื่อวันที่ 23-30 พฤษภาคม 2565 พบว่าในพื้นที่สีเขียว สีฟ้า มีสถานบันเทิงได้รับการประเมินแล้ว 3,412 แห่ง ผ่านการประเมิน 3,196 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 94 ดังนั้น ขอฝากลูกค้าที่จะเข้าร้านผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้มองหาป้าย หรือใบรับรองผ่านการประเมินก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง หากยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือยังไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์โดส) ก็ขอให้รับวัคซีนก่อน เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ ศบค.ได้มีการสั่งการให้ ศปก.มท. ร่วมกับกรมอนามัย มีการติดตามและสุ่มตรวจสถานบันเทิงเหล่านี้เป็นระยะ หากพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยก็จะมีการตักเตือน และหากยังพบความเสี่ยงอยู่ก็จะสั่งพักการเปิดให้บริการ ให้มีการปรับปรุงให้ปลอดภัยก่อน” พญ.สุมนีกล่าว

Advertisement

พญ.สุมนีกล่าวถึงสถานการณ์การรายงานผู้ติดเชื้อว่า ขณะนี้จะเน้นไปที่การรายงานผู้ติดเชื้อที่มีอาการ และไปรับบริการที่สถานพยาบาล สำหรับตัวเลขผู้ป่วยวันนี้มี 2,560 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 2,234,145 ราย โดยเป็นผู้ที่รักษาอยู่ในสถานพยาบาล 36,192 ราย จำนวนนี้ อยู่ในระบบ Home Isolation หรือระบบอื่นๆ 20,678 ราย และในโรงพยาบาล (รพ.) อีก 15,614 ราย เป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 846 ราย โดยมีผู้ที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ 417 ราย

“หากมาดูแนวโน้มป่วยหนักในช่วงนี้ จะพบว่ามีการลดลงอย่างชัดเจน แต่ที่สำคัญที่จะต้องติดตามคือ ตัวเลขของผู้ที่เสียชีวิต วันนี้รายงานอยู่ที่ 34 ราย ซึ่งในระลอกนี้ผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 8,383 ราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.11 ถือว่ามีทิศทางแนวโน้มที่ลดลง สำหรับรายละเอียดของผู้ที่เสียชีวิตในวันนี้ พบว่า ยังเป็นกลุ่มเดิมๆ ร้อยละ 100 ของผู้ที่เสียชีวิตวันนี้เป็นกลุ่มเสี่ยง มีถึงร้อยละ 82 ที่เป็นผู้สูงอายุ และอีกร้อยละ 18 ที่มีโรคเรื้อรัง หากไปดูประวัติการได้รับวัคซีนพบว่า มีถึงร้อยละ 53 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย หรือรับแค่ 1 เข็ม เพราะฉะนั้น ช่วงนี้แม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่เป้าหมายหลักที่มีความเสี่ยงควรไปรับเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์โดส) คือ ผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ส่วนผลการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของกลุ่มผู้สูงอายุอยู่ที่ร้อยละ 44.7 ส่วนเด็กเล็ก 5-11 ปี ได้รับเข็มที่ 1 ร้อยละ 59 เข็มที่ 2 ร้อยละ 33.7 ซึ่งช่วงนี้เปิดเทอมแล้ว ต้องขอความร่วมมือรับวัคซีนให้มากขึ้น” พญ.สุมนีกล่าว

ทั้งนี้ พญ.สุมนีกล่าวว่า โดยสรุปสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย มีทิศทางแนวโน้มที่ดีขึ้น และจำนวนผู้ป่วยทั้งผู้ปวยอาการหนัก และเสียชีวิตมีจำนวนลดลงต่ตอนนี้ก็มีมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมมากเรื่อยๆ ต่อไปอาจจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง ดังนั้น จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนคงมาตรการ Universal Prevention เพื่อดูแลป้องกันตัวเอง ส่วน สธ.ก็จะมีความพร้อมสำหรับการรับผู้ป่วยเข้ารักษาทั้งเตียง และยาที่เพียงพอ

นอกจากนี้ พญ.สุมนีกล่าวว่า จะขอแจ้งลดวันแถลงข่าว เนื่องจากสถานการณ์โรคที่ดีขึ้นตามลำดับ โดย ศบค.จะลดวันแถลงเหลือเดือนละ 2 ครั้ง เป็นวันพฤหัสบดี เว้น วันพฤหัสบดี แต่หากสัปดาห์ไหนที่มีการวันประชุม ศบค.ใหญ่ ก็จะเลื่อนไปแถลงในวันประชุมแทน และจากนั้นจะแถลงอีกครั้งในวันพฤหัสบดีถัดไป

 

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image