ปลัด กทม. คิกออฟกิจกรรมปลูกต้นไม้ล้านต้นทั่วกรุง เริ่มที่เขตจตุจักร
วันนี้ (5 มิ.ย.65) เวลา 11.00 น. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานกิจกรรมปลูกต้นไม้ 100 ต้น ตามนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียว และกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2565 โดยมีผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ ผู้บริหารเขตจตุจักร ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน และภาคประชาชน อาทิ คณะกรรมการและชมรมผู้สูงอายุ หมู่บ้านประชานิเวศน์ คณะกรรมการชุมชนในพื้นที่เขตจตุจักร คณะกรรมการหมู่บ้านชลนิเวศน์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม ณ บึงน้ำหมู่บ้านชลนิเวศน์ เขตจตุจักร
นายขจิตกล่าวว่า กทม. โดยสำนักงานเขตจตุจักร พร้อมภาคีเครือข่ายภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมจัดกิจกรรมปลูกไม้ยืนต้น อาทิ ต้นยางนา ต้นตะเคียน ต้นประดู่ และต้นแดง บริเวณพื้นที่ว่าง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความร่มรื่น สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กรุงเทพมหานคร และประชาชนในพื้นที่เขต สำหรับพื้นที่จัดกิจกรรมเป็นของ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) และอยู่ในความดูแลของสำนักการระบายน้ำ กทม. เป็นบึงขนาด 7 ไร่ และเป็นพื้นที่แก้มลิงที่สามารถรองรับน้ำได้มากถึง 50,400 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)
“การปลูกต้นไม้ในวันนี้ ถือเป็นกิจกรรมคิกออฟ (Kick off) ของสำนักงานเขตจตุจักร ตามนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งเป็น 1 ในนโยบาย 214 ข้อ ที่สำนักงานเขตจตุจักรจะเป็นส่วนหนึ่งของการปลูกต้นไม้เพิ่มให้ครบ 1 ล้านต้นในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป” นายขจิตกล่าว
ปลัด กทม.กล่าวว่า นโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น เป็นการเชื่อมโยงการพัฒนากรุงเทพฯ ทั้งมิติสิ่งแวดล้อมดีและสุขภาพดี ซึ่งต้นไม้มีประโยชน์ทั้งในส่วนของการลดและดูดซับมลพิษ ไม่ว่าจะเป็นมลพิษขนาดเล็ก (PM2.5) หรือก๊าซพิษต่างๆ อีกทั้งยังมีประโยชน์ในการเพิ่มร่มเงา เพิ่มพื้นที่สีเขียว ส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เดินสัญจรได้อีกด้วย แนวคิดการดำเนินการของนโยบายนี้ แบ่งออกเป็น 1.ปลูกเพื่อลดฝุ่นและมลพิษเพื่อสร้างประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับการดักจับมลพิษและฝุ่นละออง 2.ปลูกให้เกิดร่มเงาในการใช้ชีวิต เพื่อสร้างร่มเงาในที่กลางแจ้ง เช่น พื้นที่บริเวณการเชื่อมต่อทางสัญจร พื้นที่ทางเท้า และพื้นที่การค้า 3.ปลูกเพื่อส่งเสริมความหลากหลายของระบบนิเวศเมือง สร้างความหลากหลายของระบบนิเวศเมือง และลดโอกาสการเกิดโรคระบาดในพืช 4.ปลูกให้ชุมชนมีรายได้ สนับสนุนให้ชุมชนเกษตรกรรมในกรุงเทพฯ เพาะกล้าไม้โดย กทม. เป็นผู้รับซื้อ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน 5.ปลูกให้คนและต้นไม้โตไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ “คนและต้นไม้เติบโตไปพร้อมกับเมือง”
“โดยกำหนดจัดกิจกรรมร่วมกันปลูกต้นไม้ทุกวันอาทิตย์ เพื่อให้วันอาทิตย์เป็นวันปลูกต้นไม้กรุงเทพฯ” นายขจิตกล่าว
