ดีดีซีโพลชี้หลังเข้าโรคประจำถิ่น คนไทยอยากถอดหน้ากาก เลิกตรวจ ATK
วันนี้ (9 มิถุนายน 2565) สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน (RC DDC Poll Online) กรณีชีวิตที่ประชาชนต้องการเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ระยะโรคประจำถิ่นของโรคโควิด-19 ครั้งที่ 1 โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – วันที่ 6 มิถุนายน 2565 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,194 คน แบ่งเป็น เพศหญิง ร้อยละ 69 และเพศชาย ร้อยละ 31 ช่วงอายุตั้งแต่ 13- 70 ปีขึ้นไป โดยพบว่า ช่วงอายุ 50-59 ปีมากที่สุด ร้อยละ 30.3 รองลงมาอายุ 40 – 49 ปี ร้อยละ 29
โดยจำนวนตัวอย่าง 3,194 คน พบว่าไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ร้อยละ 2 ฉีดวัคซีนโควิด -19 เพียง 1 เข็ม ร้อยละ 1 ฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 เข็ม ร้อยละ 23 ฉีดวัคซีน 3 เข็ม อยู่ที่ร้อยละ 47 ฉีดวัคซีน 4 เข็ม อยู่ที่ ร้อยละ 26 และมากกว่า 4 เข็ม อยู่ที่ร้อยละ 1 ส่วนเหตุผลที่ไม่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมีกลุ่มตัวอย่างตอบ 741 คน พบว่า กังวลใจผลข้างเคียงร้อยละ 68.6 ประเทศจะเข้าสู่ระยะโรคประจำถิ่น ร้อยละ 22.7 เชื้อโอมิครอนไม่มีความรุนแรง ร้อยละ 13 และเห็นว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพร้อยละ 8.8
นอกจากนี้ RC DDC Poll Online ยังสอบถามกลุ่มตัวอย่าง 3,194 คน พบว่า ร้อยละ 28 เคยติดเชื้อโควิด -19 และ ร้อยละ 72 ไม่เคยติดเชื้อ ขณะที่เมื่อถามว่า ช่วงที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้รับการดูแลรักษาอย่างไร มีกลุ่มตัวอย่าง 892 คน ให้ข้อมูลว่า ร้อยละ 67.7 ได้รับการดูแลผ่าน Home Isolation ร้อยละ 11.4 ได้รับการดูแลที่โรงพยาบาล (รพ.) ร้อยละ 9.5 ได้รับการดูแลที่ฮอสปิเทล (Hospitel) ร้อยละ 7.6 หายเอง และ ร้อยละ 3.7 อยู่ศูนย์พักคอยในชุมชน (Community Isolation)
RC DDC Poll Online ยังสอบถาบกรณีถ้าเข้าสู่โรคประจำถิ่น ต้องการให้ยกเลิกมาตรการใด มีกลุ่มตัวอย่าง 3,175 คน ให้ข้อมูล ดังนี้ อันดับที่ 1 ต้องการเลิกตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม ร้อยละ 33.4 อันดับที่ 2 ไม่ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ ร้อยละ 30.8 อันดับที่ 3 ต้องการถอดหน้ากากอนามัย ร้อยละ 26.2
อันดับที่ 4 ไม่จำกัดจำนวนคนร่วมงาน ร้อยละ 24.8 อันดับที่ 5 ไม่ต้องตรวจประวัติการฉีดวัคซีนก่อนร่วมกิจกรรม ร้อยละ 22.5 และอันดับที่ 6 ไม่ต้องการให้มีการเว้นระยะห่างร้อยละ 17.1 นอกนั้น ให้ยกเลิกทุกมาตรการ และไม่ต้องฉีดวัคซีนก่อนเข้าไทย ร้อยละ 15.8 และ ร้อยละ 10.5 ตามลำดับ
