พม.จับมือ กรมสุขภาพจิต ดูแลกลุ่มเปราะบางในสถานรองรับ
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวในการเป็นสักขีพยานพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) การดูแลฟื้นฟูผู้ใช้บริการที่มีอาการทางจิตเวชในสถานรองรับของ พม. กับกรมสุขภาพจิต โดย พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ว่า ปัจจุบันผู้รับบริการในสถานคุ้มครองของ พม.มีผู้ที่ป่วยทางจิตเวชประมาณ 70% เนื่องจากหลายคนเป็นผู้ที่ถูกทอดทิ้งมานาน การเข้าไม่การรักษา รวมถึงสังคมมีความเปราะบางจากการเปลี่ยนแปลง ผลจากเทคโนโลยี พฤติกรรมสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการฆ่าตัวตายและป่วยซึมเศร้าสูงขึ้น ต้องขอบคุณอธิบดีกรมสุขภาพจิตที่นำทีมมาร่วมพัฒนาแบบพุ่งเป้า แก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ ครบวงจร เพื่อทำให้ครอบครัวเข้มแข็ง แข็งแรง ส่งผลไปถึงสุขภาพจิตที่ดี จิตเข้มแข็งกายก็ไม่ป่วย สามารถฟันฝ่าอุปสรรคของชีวิตต่อไปได้ เป็นการวางฐานรากของครอบครัวเพื่อความรัก อบอุ่น เข้าใจซึ่งกันและกัน ทำให้ครอบครัวเข็มแข็ง นำสู่สังคมและประเทศเข็มแข็ง
ด้าน นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดพม. กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ใช้บริการในสถานรองรับของ พม. มีจำนวน 10,141 คน เป็นผู้มีอาการทางจิต ถึง 6,103 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 60.18 ของผู้ใช้บริการทั้งหมด พม. จึงได้ร่วมมือกับกรมสุขภาพจิต หาแนวทางแก้ไขปัญหากลุ่มเปราะบางจิตเวชทั้งระบบ มีเจตนารมณ์ร่วมกันในการดูแลฟื้นฟูกลุ่มเปราะบางจิตเวช ให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้ และไม่เป็นภาระพึ่งพิง ภายใต้ปฏิบัติการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ประกอบด้วย 6 หน่วยงาน ได้แก่ กรมสุขภาพจิต กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งความร่วมมือได้ก่อให้เกิดบริการที่สำคัญ เช่น คู่เครือข่ายการดูแลฟื้นฟูผู้ใช้บริการที่มีอาการทางจิตเวชบริการทางการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) การตรวจรักษาพยาบาลฉุกเฉิน
ทั้งนี้ การจัดตั้งศูนย์บริการคนพิการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ณ โรงพยาบาลจิตเวชทุกแห่ง การตรวจประเมินสุขภาพจิต และการฝึกอบรมเพิ่มพูน ศักยภาพด้านการดูแลสุขภาพจิต ให้แก่บุคลากรเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โครงการแลกเปลี่ยนบ้านเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพ ทั้งนี้เพื่อร่วมมือกันอย่างจริงจัง ในการดูแล ฟื้นฟูกลุ่มเปราะบางที่มีอาการทางจิตเวชในทุกมิติ ให้พลิกฟื้น คืนสังคม และอยู่ร่วมกับบุคคลทั่วไปได้อย่างมีศักดิ์ศรี
