กทม.ถก กฟน.ลุยจัดระเบียบสายสื่อสาร เชื่อมระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ ไร้รอยต่อ

กทม.ถก กฟน.ลุยจัดระเบียบสายสื่อสาร เชื่อมระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ ไร้รอยต่อ

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สำนักงานใหญ่ เขตคลองเตย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือเรื่องแผนการนำสายไฟลงดิน ร่วมกับ นายรงค์เพชร เขาเรียง รองผู้ว่าการปฏิบัติการระบบส่ง กฟน. และ นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. ว่า ในการประชุมวันนี้ เพื่อหารือการจัดระเบียบสายสื่อสารพื้นที่ที่ยังมีเสาไฟฟ้าอยู่ กรณีการระงับการก่อสร้างโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายอากาศใต้ดินของ กฟน.

“หลักการทำงานคือ เตือนก่อน หากผู้รับจ้างมีแนวทางที่จะปรับปรุงก็จะปล่อยให้ทำงาน แต่หากเตือนไปแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขก็จะสั่งให้หยุด ทั้งนี้ กทม.จะเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็วทุกจุด โดย กฟน.จะดูแลควบคุมในเรื่องของคุณภาพการก่อสร้าง และปรับรูปแบบฝาบ่อพักให้เป็นรูปแบบใหม่ ลดความขรุขระของขอบฝาบ่อ เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น” นายวิศณุกล่าว และว่า สำหรับการจัดระเบียบสายสื่อสาร จะมี 2 ส่วน คือ 1.ส่วนที่ กฟน. มีแผนเอาสายไฟฟ้าลงดิน ก็จะนำสายสื่อสารลงดินด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 2.การจัดระเบียบสายสื่อสารตามนโยบายของผู้ว่าฯกทม. ซึ่งจะได้นัดหารือร่วมกับ กสทช. เพื่อจัดระเบียบสายสื่อสารในพื้นที่ที่ยังมีเสาไฟฟ้าอยู่ ทั้งนี้ จะตั้งคณะทำงาน เพื่อประสานการทำงานร่วมกับ Operator การสื่อสารหลักๆ อย่างใกล้ชิด

รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ในที่ประชุมยังได้หารือผู้บริหาร กฟน. ถึงแนวทางการเชื่อมต่อระบบร้องเรียนทราฟฟี่ ฟองดูว์ (Traffy Fondue) ในส่วนภารกิจซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ กฟน. เพื่อลดขั้นตอนของเอกสารและให้เกิดความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหา ซึ่ง กฟน.ยินดีที่จะเชื่อมต่อ Contact Point ของระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ กับระบบการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Advertisement

“การยกระดับเมืองให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองระดับโลกได้ กฟน.ถือว่ามีส่วนสำคัญ เนื่องจากการขับเคลื่อนความเป็นเมืองที่ดีพลังงานต้องมีความเสถียร และการปรับปรุงต้องมีผลกระทบแน่นอน ที่ผ่านมา เราได้ร่วมมือช่วยเหลือกันมาอย่างต่อเนื่อง ได้เห็นถึงความพยายามของทั้งสองหน่วยงานที่จะทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองของโลก ซึ่งอนาคตกรุงเทพฯเป็นอนาคตของประเทศไทย” นายวิศณุกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้ กฟน.ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ระยะทาง 236.1 กิโลเมตร ดำเนินการแล้วเสร็จ 62 กิโลเมตร อยู่ระหว่างดำเนินการ 174.1 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มเสถียรภาพและความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า รองรับความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต เสริมสร้างภูมิทัศน์ให้สวยงาม และเพิ่มความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีหลักเกณฑ์การเลือกพื้นที่โครงการ ประกอบด้วย แนวถนนสายหลัก แนวรถไฟฟ้า ย่านธุรกิจและสถานที่สำคัญ และตามนโยบายของหน่วยงานผู้ดูแลพื้นที่ รูปแบบการก่อสร้าง ประกอบด้วย วิธีการดันท่อ (Pipe Jacking) ใช้สำหรับการก่อสร้างสำหรับวางบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าบนถนนจราจร วิธีการดึงท่อ (Horizontal Directional Drilling: HDD) ใช้สำหรับการก่อสร้างท่อร้อยสายไฟฟ้าจากบ่อพักไปยังจุดจ่ายไฟต่างๆ วิธีการขุดเปิด (Open Cut) ใช้สำหรับการก่อสร้างบ่อพักและวางท่อร้อยสายไฟฟ้าบนทางเท้า

Advertisement

ทั้งนี้ กฟน.ได้ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจในการดำเนินโครงการ ชี้แจงให้เห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายใต้ดิน ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการ เพื่อสร้างความเข้าใจและให้เกิดความร่วมมือ เพื่อให้โครงการดังกล่าวสามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

สำหรับการหารือในครั้งนี้ มีความเกี่ยวข้องกับนโยบายสำคัญของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. 9 ด้าน 9 ดี 216 นโยบาย ประกอบด้วย นโยบายการกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ นโยบายการรายงานปัญหาโดยประชาชน แก้ปัญหาโดย กทม. ผ่านแพลตฟอร์มทราฟฟี่ ฟองดูว์ นโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนำการพัฒนาเมือง และนโยบายกำกับดูแลและเร่งคืนผิวจราจรการก่อสร้างอย่างใกล้ชิดเพื่อการจราจรที่คล่องตัว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image