สภาผู้บริโภคค้านกทม.เก็บค่ารถไฟฟ้า 59 บ. ขอไม่เกิน 44 บ.ตลอดสาย

สภาผู้บริโภคค้าน กทม.เก็บค่ารถไฟฟ้า 59 บาท ชี้ไม่เป็นธรรม ชงไม่เกิน 44 บาทตลอดสาย

จากการที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 ถึงเรื่องกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสายไม่เกิน 59 บาท รวมถึงส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 แบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ และห้าแยกลาดพร้าว-คูคต โดยอ้างอิงถึงข้อเสนอของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) นั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชัชชาติแย้ม ค่ารถไฟฟ้าสีเขียว ต้องไม่เป็นภาระ เล็งไม่เกิน 59 บาทตลอดสาย

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า สภาองค์กรของผู้บริโภคคัดค้าน การกำหนดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวดังกล่าว เนื่องจากราคา 59 บาท จะทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยจำนวนมากในกรุงเทพมหานคร หมดโอกาสใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อการเดินทางในชีวิตประจำวัน ต้องหันมาพึ่งรถโดยสารสาธารณะที่ก่อให้เกิดปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ สภาวะความเครียดจากการใช้เวลาบนท้องถนน ในสภาวะค่าครองชีพพุ่งสูงสะท้อนทรรศนะที่ไม่มองบริการรถไฟฟ้าเป็นขนส่งมวลชน หรือเป็นบริการสาธารณะเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค

น.ส.สารีกล่าวว่า ข้อเสนอที่สภาองค์กรของผู้บริโภค และเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคกรุงเทพมหานครเสนอมาอย่างต่อเนื่อง คือ ราคาที่เหมาะสมกับค่าครองชีพและทำให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มรายได้สามารถใช้บริการได้อยู่ที่ 25 บาทตลอดสาย ซึ่งสามารถทำได้จริง โดยอ้างอิงข้อมูลค่าจ้างเดินรถ และต้นทุนค่าโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวของรถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ที่ประมาณ 15-16 บาท อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากข้อมูลรายได้ของบีทีเอส และกลุ่มบริษัทย้อนหลัง จะพบว่าในปี 2562-2563 บริษัทมีกำไรถึง 8,817 ล้านบาท จึงเห็นว่าการกำหนดราค่ารถไฟฟ้า 25 บาทตลอดสาย สามารถดำเนินการได้

Advertisement

“อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ยังไม่หมดสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวกับบริษัทบีทีเอสในปี 2572 ควรกำหนดราคาค่าโดยสารไม่เกิน 44 บาท รวมส่วนต่อขยายจากหมอชิต-คูคต และอ่อนนุช-เคหะสมุทรปราการ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราสูงสุดของรถไฟฟ้าสีต่างๆ ในปัจจุบัน และเป็นไปตามสิทธิของสัญญาสัมปทานของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บีทีเอส โดยที่ผ่านมา สภาองค์กรของผู้บริโภคเคยทำข้อเสนอดังกล่าวถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม ที่เสนอให้ กทม. กำหนดค่าโดยสารไว้เพียง 49.83 บาท ดังนั้น การกำหนดราคา 59 บาท จึงขัดแย้งกับข้อเสนอเดิมของกระทรวงคมนาคม และขัดแย้งกับข้อเสนอของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่ให้กำหนดราคา 25 บาทตลอดสาย หลังหมดสัญญาสัมปทานในปี 2572 และราคา 44 บาทตลอดสาย ระหว่างยังไม่หมดสัญญาสัมปทาน 2572” น.ส.สารีกล่าว

ทั้งนี้ น.ส.สารีกล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนโดยเฉพาะผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อน้อยมีความคาดหวังต่อผู้ว่าฯกทม. ในการกำหนดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า โดยราคาสูงสุดควรจะใกล้เคียงกับค่าโดยสารตลอดสายของเส้นทางรถไฟฟ้าสีอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อส่วนต่อขยายของสายสีเขียวเป็นการลงทุนโดยรัฐทั้งสิ้น เพื่อความโปร่งใส สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอให้ผู้ว่าฯกทม.พิจารณาราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ในราคา 44 บาท ก่อนหมดสัมปทานปี 2572 และราคา 25 บาท ตลอดสายหลังจากหมดอายุสัมปทาน ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมที่ประชาชนทุกคนใช้รถไฟฟ้าได้ทุกวัน

Advertisement

“สภาองค์กรของผู้บริโภคเรียกร้องให้ ผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยสัญญาสัมปทานและสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อประชาชนรับรู้ และร่วมกันหาทางออกเพื่อสามารถกำหนดราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมกับผู้บริโภคอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ในระบบขนส่งมวลชนสาธารณะในต่างประเทศ ได้มีการกระตุ้นให้ประชาชนใช้บริการขนส่งมวลชน หรือขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้นเพื่อบรรเทาภาวะราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น กทม.ก็ควรสร้างแรงจูงใจให้ชาวกรุงเทพฯ หันมาใช้ระบบรถไฟฟ้ามากขึ้นด้วยการใช้ราคาเป็นปัจจัยกระตุ้น

และในขณะเดียวกัน ก็ควรเร่งสนับสนุนการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าทุกสีกับบริการสาธารณะประเภทอื่นๆ เพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชน เมื่อไม่มีราคาและความสะดวกเป็นแรงจูงใจ ส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียว มีประชาชนใช้บริการเพียงร้อยละ 27 เท่านั้น กทม.จึงควรกระตุ้นให้ประชาชนนิยมใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ลดปัญหา PM 2.5 ที่ส่งผลต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของผู้ว่าฯกทม. คนปัจจุบัน” น.ส.สารีกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image