ผู้ป่วยหนักพุ่ง! ปลัด สธ.แนะทุกกลุ่มบูสต์วัคซีนโควิด-ไป ตปท.สวมแมสก์เมื่อใกล้คน
วันนี้ (29 มิถุนายน 2565) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ยังอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ แม้แนวโน้มผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยกำลังรักษา จะเพิ่มขึ้น และเป็นเพียงเล็กน้อย โดยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ทุกภูมิภาค โดยเฉพาะ อ.เมือง ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิด และเริ่มมีสัญญาณพบผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้น ส่วนผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง แต่ยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์
“ดังนั้น จึงต้องเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น (บูสเตอร์ โดส) ในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วจะมีอาการรุนแรง คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว รวมทั้งพิจารณาใช้ยาแอนติบอดี้ออกฤทธิ์ยาว (LAAB) ในกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้เพียงพอจากการฉีดวัคซีน สำหรับผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่มีประวัติการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว ได้ให้จังหวัดติดตามข้อมูลและเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาภูมิคุ้มกันตามแนวทางที่กำหนด เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตและค้นหาปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิต” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
ปลัด สธ. กล่าวว่า แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ยังแนะนำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองตลอดเวลา และไปรับวัคซีนตามกำหนด ซึ่งป้องกันการติดเชื้อได้ในระดับหนึ่ง และหากติดเชื้อจะช่วยลดความเสี่ยงอาการรุนแรงได้อย่างมาก
“ส่วนผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศทุกคน แนะนำให้สวมหน้ากากเมื่อต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้คนจำนวนมาก เว้นระยะห่าง หรือหลีกเลี่ยงการร่วมกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมากที่ไม่ได้สวมหน้ากาก เมื่อกลับจากต่างประเทศแล้วให้สังเกตอาการตนเอง และตรวจ ATK เมื่อมีอาการป่วย หากพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำเป็นต้องสวมหน้ากากขณะอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 หรือเมื่อไปสถานที่ปิด หรือมีคนจำนวนมาก” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
