อภัยภูเบศร จัดเต็ม 4 วัน 4 เวิร์กช็อป ชูสมุนไพรเพื่อคนสูงวัยใน ‘งานเฮลท์แคร์’ แจกกล้าบัวหลวงฟรี! พร้อมสอนวิธีใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 มิถุนายน ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) หรือเครือมติชน ผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน จำนวน 14 แห่ง หน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตลอดจนภาคเอกชน จัดมหกรรมสุขภาพเฮลท์แคร์ 2022 ภายใต้ธีม “Healthcare 2022 จักรวาลผู้สูงวัย” ตอกย้ำความแกร่งผู้นำงานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน-วันที่ 3 กรกฎาคมนี้
ภก.ณัฐดนัย มุสิกวงศ์ เภสัชกรชำนาญการ หัวหน้าฝ่ายพัฒนางานวิจัยด้านสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทยนั้น ปี 2564 ประชากรไทยที่อายุ 65 ปีขึ้นไปมีจำนวนอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 12.8% เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียนไทยมีสัดส่วนประชากรสูงอายุต่อประชากรทั้งหมด มากเป็นอันดับ 2 เป็นรองจากสิงคโปร์ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสังคมผู้สูงอายุทั้งในระดับประเทศและระดับบุคคลมีความสำคัญมาก ในทางการแพทย์นั้นนอกจากให้ความสำคัญกับเกณฑ์ของอายุแล้ว ยังมีความพยายามในการศึกษาทำความเข้าใจกับความชรา (aging) จากการเสื่อมสภาพของเซลล์ภายในร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นว่าหากเราสามารถยับยั้ง หรือชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายได้ ก็จะทำให้ลดอุบัติการณ์การเจ็บป่วยได้ โดยไม่ต้องรอให้ถึงวัยสูงอายุ
ภก.ณัฐดนัยกล่าวว่า ภายในงานมติชนเฮลท์แคร์ปีนี้ อภัยภูเบศรได้นำแนวคิด “สมุนไพรดูแลสุขภาพผู้สูงวัย” มาสื่อสารทำความเข้าใจ ผ่านชุดนิทรรศการสมุนไพร เพื่อชะลอความชราของร่างกายและอวัยวะสำคัญๆ อาทิ “บัวหลวง” สมุนไพรที่ทีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความเสื่อมในเซลล์ร่างกาย ซึ่งจริงๆ แล้วนั้น บัวหลวงเป็นสมุนไพรที่ใช้ได้แทบจะทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นใบบัวอ่อนกินเป็นผักบำรุงกำลังเนื่องจากมีสาร nuciferine ทำให้หลับสบายคลายเครียด โดยจะพบว่าสารดังกล่าวมีในส่วนของกลีบบัว เกสรบัวและดีบัวด้วยเช่นกัน ส่วนรากบัวช่วยแก้ร้อนในอันเป็นสรรพคุณที่เรารู้จักกันดี ในภายหลังมีรายงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากรากบัวช่วยบำรุงสมอง ลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งทางอภัยภูเบศรก็มีงานวิจัยเกี่ยวกับตำรับบัวหลวง ก็พบว่า มีส่วนช่วยในเรื่องความจำและสมอง เมื่อนำกลีบบัวหลวงเข้าตำรับกับบัวบกและพริกไทยดำ
ภก.ณัฐดนัยกล่าวต่อว่า กระชายเป็นสมุนไพรที่โบราณใช้เพื่อขับลม มีการใช้เพื่อดูแลสุขภาพปากและฟัน ทางอภัยภูเบศรนำมาพัฒนาเป็นยาสีฟัน พบว่าช่วยยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุ ปัจจุบันทางอภัยภูเบศร กำลังร่วมวิจัยกับคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี ในการนำสารสกัดกระชายมาพัฒนาเป็นยารักษาโควิด-19 ซึ่งการวิจัยเบื้องต้นในสัตว์ทดลองพบว่า มีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้ดี ช่วยป้องกันปอดอักเสบในหนูที่ติดเชื้อโควิด-19 ผักกระโฉมหรืออ้มกบ สมุนไพรที่มีกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย ช่วยย่อยอาหาร มีงานวิจัยที่พบว่าช่วยรักษาแผล มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ผักลิ้นห่าน ช่วยบำรุงปอด หลอดลม จากงานวิจัยพบว่าสารในลิ้นมังกรมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ แก้ปวด สมุนไพรเหล่านี้นอกจะถูกจัดแสดงในนิทรรศการแล้ว อภัยภูเบศรได้นำมาสมุนไพรเหล่านี้มาปลูกไว้ที่ “ภัทร-ธรรมรักษ์นิเวศน์” เป็นโครงการโคกหนองนาบนเนื้อที่กว่า 58 ไร่ ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อเป็นการอนุรักษ์พันธุกรรมผักพื้นบ้าน โดยมุ่งหวังจะเผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชนทั่วไป หน่วยงานที่สนใจ เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างความมั่นคงทางอาหารและยาในยามวิกฤต อย่างไรก็ตาม เป็นโอกาสอันดีว่าในงานมติชน Healthcare นี้ อภัยภูเบศรจะนำสมุนไพร 4 ชนิด มาแจกให้ประชาชนไปปลูก เพื่อใช้ดูแลสุขภาพตนเองได้เองที่บ้าน
อย่างไรก็ตาม ภก.ณัฐดนัยกล่าวว่า ทางบูธอภัยภูเบศร จัดการอบรมระยะสั้น ซึ่งนอกจากได้ความรู้แล้วยังได้ใบประกาศนียบัตรด้วย โดยตารางกิจกรรม วันที่ 30 มิ.ย. “สมุนไพรพื้นบ้าน” เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ หลักสูตรทำน้ำมันบัวบกและสอนวิธีนวดศีรษะผ่อนคลาย วันที่ 1 ก.ค. “กระชาย” สมุนไพรเพื่อการดูแลกระดูกและช่องปาก หลักสูตรสอนการทำยาสีฟันกระชายและน้ำกระชาย วันที่ 2 ก.ค. ปรับสมดุลสูงวัย ชะลอวัยไกลโรค หลักสูตรสอนการทำอโรมาออยล์และการนวดศีรษะ นวดท้อง คืนสมดุลให้ร่างกาย วันที่ 3 ก.ค. อบรมการใช้ “กัญชา” บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ โรคผิวหนังและอาการท้องผูก รวมถึง แนวทางในการติดตามผลการรักษาและความปลอดภัย หลักสูตรการเรียนรู้การสกัดกัญชาและการทำยากัญชาใช้เอง ทุกหลักสูตรรับจำนวนจำกัดเพียง 30 คน ค่าใช้จ่ายหลักสูตรละ 299 บาท อบรมเสร็จแล้วนำกลับไปใช้ที่บ้านได้เลย รายได้ทั้งหมดจากการสมัครจะมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อเป็นสาธารณกุศล
