ชัชชาติ หอบ ขนมจีบ-ซาลาเปา เยี่ยม จนท.รพ.สิรินธร ห่วงผู้ป่วยโควิดกลุ่ม 608

ชัชชาติ หอบ ขนมจีบ-ซาลาเปา เยี่ยม จนท.รพ.สิรินธร ห่วงผู้ป่วยโควิดกลุ่ม 608

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม เวลา 14.00 น. ที่โรงพยาบาลสิรินธร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า นำขนมจีบซาลาเปามาเยี่ยมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และสอบถามถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

นายชัชชาติกล่าวว่า ขณะเดินมาเจอผู้ป่วยที่ตรวจ ATK เป็นบวกและกำลังรอรับยาอยู่ และทักทาย พูดคุยให้กำลังใจกัน แม้จะมีคนติดเยอะแต่อาการไม่รุนแรง เมื่อครู่ก็เจอพ่อแม่พาลูกที่ติดโควิดมา 2 คน และกังวลผู้ป่วย 608 คือกลุ่มผู้สูงอายุ มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรคประจำตัว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติได้เดินไปพูดคุยกับ นางสาวนัฐจิราพร แดงเอียด รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร, นางสาวกัลยา แสงรัศมี หัวหน้าฝ่ายพัสดุ, นางสาวบรรจง นิธิปรีชานนท์ หัวหน้าพยาบาล ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลสิรินธร และคนอื่นๆ คือผู้ช่วยหัวหน้าพยาบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารงานทั่วไป ที่โต๊ะม้านั่งริมสวน ห่างจากกลุ่มผู้ป่วยเพื่อไม่ให้ถ่ายติดภาพผู้ป่วยในเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยได้พูดคุยถึงสถานการณ์การการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของโรงพยาบาล

ผู้ว่าฯกทม. ได้สอบถามปัญหาของโรงพยาบาลสิรินธร ปัจจุบันเป็นเรื่องของอัตรากำลัง จากเดิมเจ้าหน้าที่น้อยอยู่แล้ว ขณะนี้ประมาณ 30 คน หรือเกือบ 10% ติดเชื้อจากคนไข้ เพราะบางครั้งผู้ป่วยเข้ามารับบริการ แต่ไม่แสดงอาการเกี่ยวกับโควิด ทำให้พยาบาลติดมา จึงต้องแยกพักรักษาตัว หากเจ้าหน้าที่ติดเชื้อเจ็บป่วยก็จะขาดผู้ที่จะมาดูแลคนไข้ จึงฝากไปยังประชาชนช่วยกันระวังตัว ให้ความสำคัญกับการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นอยู่ในที่โล่งแจ้งโดยไม่มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย รวมถึงการล้างมือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ ส่วนการร่วมกิจกรรมในที่โล่งแจ้งยังคงทำได้ แต่หากมีคนหนาแน่นก็ต้องสวมหน้ากาก ยังไม่ถึงขั้นต้อง Shut Down เพราะไม่มีได้มีความรุนแรงของโรคเหมือนเช่นที่ผ่านมา

Advertisement

นายชัชชาติกล่าวตอนหนึ่งว่า ตอนแรกคิดว่ามาจะไม่เจอใครแต่กลับมาครบถ้วน ซึ่ง พญ.อัมพร เกียรติปานอภิกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิรินธร เพิ่งกลับไปเสียดายที่ไม่ได้เจอ


“มาวันนี้เพราะเป็นห่วง อยากจะรู้จากคนที่ทำงานจริงๆ ว่าสถานการณ์มันเป็นอย่างไร ขาดเหลืออะไรไหม ขวัญกำลังใจยังดีอยู่ไหม เท่าที่เห็นคือ ทุกคนยังมีขวัญกำลังใจดี เห็นแล้วก็สบายใจขึ้น ซึ่งกทม.พร้อมจะสนับสนุนทุกอย่าง เพราะทุกคนคือด่านหน้าที่ต้องรบกับโควิด และสถานการณ์นี้ยังไม่จบ เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป เศรษฐกิจไม่ไหวแล้ว คนอาจจะอดตายได้ แต่ถ้าป้องกันตัวให้ดี ใส่หน้ากาก ล้างมือ ก็จะไปต่อได้ ซึ่งก็โชคดีอยู่อย่างที่คนติดส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงมาก” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว พร้อมได้ขอบคุณหมอ พยาบาล และบุคลากรของโรงพยาบาลทุกคนที่ทำงานหนัก โดยไม่มีวันหยุด ต้องดูแลคนไข้ 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ขอให้ผู้มารับบริการใจเย็นๆ หากต้องคอยนานบ้าง”

นางสาวนัฐจิราพร แดงเอียด รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลสิรินธร และหัวหน้าพยาบาล ร่วมพูดคุยให้ข้อมูล โดยให้ข้อมูลว่า ขณะนี้สถานการณ์ผู้ป่วยโควิดยังค่อนข้างคงที่ ทางโรงพยาบาลสิรินธรจัดจุดบริการแบบ One Stop Service ในจุดที่อากาศถ่ายเท ให้บริการตั้งแต่ซักประวัติคนไข้ ตรวจประเมินอาการ และนั่งรอรับยา ซี่งยังคงมียาเพียงพอสำหรับผู้ป่วย มีผู้เข้ามารับบริการประมาณ 240 คน/วัน เพื่อตรวจและรับยา โดยจำนวนนี้มีประมาณ 5% หรือประมาณ 10 คน/วัน จะต้องรับไว้เป็นผู้ป่วยใน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 เตียงที่รองรับผู้ป่วยโควิด 19 ของโรงพยาบาลฯ ปัจจุบันอยู่ที่ 60 เตียง ซึ่งยังมีเพียงพอเช่นเดียวกัน ส่วนผู้มีอาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ มีจำนวน 3 คน และต้องให้ออกซิเจนแรงดันสูง จำนวน 6 คน ยังสามารถรับมือได้ และหากมีผู้ป่วยเพิ่มก็ยังสามารถจะขยายจำนวนเตียงเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งในช่วงที่สถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงในระยะเวลาที่ผ่านมาเคยขยายไปมากกว่า 1,000 เตียง โดยรวมถึงศูนย์พักคอย และ Hospitel ที่ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่แพทย์-พยาบาลไปดูแลด้วย

สถานการณ์ในขณะนี้เริ่มมีคนติดมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง สำหรับกลุ่มที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่ม 608 ได้แก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค เช่น เบาหวาน ความดัน โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง รวมทั้งผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และสตรีมีครรภ์ ซึ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังทั้งผู้ป่วยและผู้ที่จะเข้าเยี่ยมด้วย

ผู้ว่าฯกทม. ได้สอบถามปัญหาของโรงพยาบาลสิรินธร ปัจจุบันเป็นเรื่องของอัตรากำลัง จากเดิมเจ้าหน้าที่น้อยอยู่แล้ว ขณะนี้ประมาณ 30 คน หรือเกือบ 10% ติดเชื้อจากคนไข้ เพราะบางครั้งผู้ป่วยเข้ามารับบริการแต่ไม่แสดงอาการเกี่ยวกับโควิด ทำให้พยาบาลติดมา จึงต้องแยกพักรักษาตัว หากเจ้าหน้าที่ติดเชื้อเจ็บป่วยก็จะขาดผู้ที่จะมาดูแลคนไข้ จึงฝากไปยังประชาชนช่วยกันระวังตัว ให้ความสำคัญกับการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นอยู่ในที่โล่งแจ้งโดยไม่มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย รวมถึงการล้างมือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ ส่วนการร่วมกิจกรรมในที่โล่งแจ้งยังคงทำได้ แต่หากมีคนหนาแน่นก็ต้องสวมหน้ากาก ยังไม่ถึงขั้นต้อง Shut Down เพราะไม่มีได้มีความรุนแรงของโรคเหมือนเช่นที่ผ่านมา

จากนั้นนายชัชชาติได้เดินเท้าไปยังแผนกอุบัติเหตุฉุกเฉินเพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และประกาศปิดไลฟ์เนื่องจากจะเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยด้านในต่อไป

ทั้งนี้ โรงพยาบาลสิรินธร เป็นโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ กทม. ขนาดใหญ่ 400 เตียง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประเวศ พื้นที่ 90 ไร่ ได้รับบริจาคที่ดินจากเอกชนเพื่อจัดสร้างเป็นโรงพยาบาล ปัจจุบันเป็นอีกโรงพยาบาลหลักฝั่งตะวันออกของ กทม. ที่ช่วยบรรเทาความหนาแน่นจากโรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ เขตหนองจอก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image