กรมการแพทย์ต่อยอดแนวทางรักษาโควิดเจอ-แจก-จบ เป็น สแกน/โทร.-แจก-จบ

กรมการแพทย์ต่อยอดแนวทางรักษาโควิดเจอ-แจก-จบ เป็น สแกน/โทร.-แจก-จบ

วันนี้ (19 กรกฎาคม 2565) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ รัฐบาลโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ.มีความห่วงใยประชาชน จึงมอบหมายให้กรมการแพทย์ประสานงานการบริหารจัดการการรักษาร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และหน่วยงานเครือข่ายต่างๆ ได้แก่ โรงพยาบาล (รพ.) ภาคีเครือข่าย UHosNeT, กทม., กระทรวงกลาโหม, รพ.เอกชน, ภาคประชาสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ทั้งนี้ กรมการแพทย์ได้ต่อยอดระบบการดูแลจากเดิม เจอ-แจก-จบ ไปสู่สแกน (หรือโทร)-แจก-จบ ซึ่งเป็นการจัดทำ QR code หรือโทรศัพท์ติดต่อสถานพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยที่มีโทรศัพท์ เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้โดยไม่ต้องมาสถานพยาบาลในกลุ่มที่ไม่มีอาการ หรืออาการไม่รุนแรง” นพ.สมศักดิ์กล่าว

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ส่วนมากเป็นกลุ่มอาการสีเขียว การรักษาผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงเป็นรูปแบบแยกกักตัวที่บ้าน (Out-patient with self Isolation: OPSI) จึงยังมีเตียงรองรับกลุ่มอาการหนัก สำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นไปตามแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ADVERTISMENT

นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 24 วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม 1.กลุ่มที่ไม่มีอาการหรือสบายดี ให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอก โดยแยกกักตัวที่บ้าน (Out-patient with self Isolation) 2.ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง/โรคร่วมสำคัญและภาพถ่ายรังสีปอดปกติ 3.ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือมีโรคร่วมสำคัญ หรือผู้ป่วยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีปอดอักเสบ (pneumonia) เล็กน้อยถึงปานกลางยังไม่ต้องให้ออกซิเจน และ 4.กลุ่มที่มีอาการปอดอักเสบต้องได้รับการรักษาด้วยออกซิเจน

“โดยในกลุ่มที่ 1 ที่ไม่มีอาการหรือสบายดี ตามแนวทางแล้วไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน ล้างมือ และรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล” นพ.สมศักดิ์กล่าว

ADVERTISMENT

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image