กรมควบคุมโรคเผยผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 2 นับเป็นชายไทยคนแรกของ ปท.

กรมควบคุมโรคเผยผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 2 นับเป็นชายไทยคนแรกของ ปท.

กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า มีรายงานประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง (Monkey pox) รายที่ 2 เป็นชายอายุ 47 ปี ในกรุงเทพมหานคร นั้น

ล่าสุด วันนี้ (28 กรกฎาคม 2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาล (รพ.) แห่งหนึ่ง เขตดุสิต กรุงเทพฯ พบผู้ป่วยสงสัยโรคฝีดาษวานร จึงมอบหมายให้สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่สอบสวนโรคทันที จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยเป็นชายไทย อายุ 47 ปี ประวัติมีเพศสัมพันธ์กับชายต่างชาติ ไม่ทราบสัญชาติ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามตัวเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน และมีตุ่มหนองที่อวัยวะเพศ ได้แยกตัวจากคนในบ้านซึ่งมีผู้สัมผัสร่วม 10 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจหาเชื้อ และให้สังเกตอาการ 21 วัน

“ต่อมาผู้ป่วยไปซื้อยามาทา ทำให้ตุ่มหนองแห้ง แต่เริ่มขึ้นใหม่บริเวณแขน ขา ใบหน้า ศีรษะ และได้เข้ามารักษาที่ รพ.ด้วยอาการผื่นและอวัยวะเพศบวม เจ็บ แสบ ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจ หาเชื้อก่อโรค โดยห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สธ. และห้องปฏิบัติการ ที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลการตรวจ PCR ทั้ง 2 แห่ง ตรงกัน พบเชื้อ Monkeypox virus ขณะนี้ให้ผู้ป่วยรักษาในห้องแยกเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นชายไทยรายแรกของประเทศ และเป็นรายที่ 2 ที่ตรวจพบการติดเชื้อฝีดาษวานรในประเทศไทย (รายแรกเป็นชายชาวไนจีเรีย)” นพ.โอภาส กล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคฝีดาษวานรทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2565) ผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก 20,849 ราย พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นเป็น 74 ประเทศ โดยพื้นที่การแพร่ระบาดส่วนใหญ่พบอยู่ในแถบทวีปยุโรป ประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 4,639 ราย สเปน 4,001 ราย เยอรมนี 2,459 ราย สหราชอาณาจักร 2,367 ราย และฝรั่งเศส 978 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศชายเกือบทั้งหมด

Advertisement

“ขณะนี้ได้ส่งทีมไปสอบสวนโรคเพิ่มในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และเร่งติดตามตัวชายชาวต่างชาติแล้ว และเน้นย้ำว่า โรคฝีดาษวานรไม่ได้ติดต่อกันได้ง่ายๆ ซึ่งจะติดต่อได้จากการสัมผัสใกล้ชิดมากๆ จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงเพิ่มความระมัดระวัง และลดการสัมผัสใกล้ชิดกับคนแปลกหน้า เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อฝีดาษวานร และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นอีกด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนมีความสงสัยว่าตนเองมีอาการป่วยเข้าได้กับโรคฝีดาษลิง สามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจหาเชื้อได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422” นพ.โอภาส กล่าวย้ำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image