อนุทิน แจงปม อ.เจษฎาซื้อโมลนูพิราเวียร์ให้ครอบครัวกินรักษาโควิด จ่อเอาผิดเพจขายยา
วันนี้ (1 สิงหาคม) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความว่า ครอบครัวตนเองติดโควิด-19 แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 608 จึงไม่ได้รับยาต้านไวรัส ต้องสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์มาใช้เอง แต่ขอไม่ระบุแหล่งที่ซื้อยามาว่า ยาในตระกูลโมลนูพิราเวียร์ เป็นการนำเข้าโดยผู้ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งตนได้สอบถามรายละเอียดไปยังเลขาธิการ อย. ได้รับคำยืนยันว่า หากนำมาขึ้นทะเบียนถูกต้อง อย.ก็พร้อมออกทะเบียนให้ พร้อมถามถึงข้อจำกัดการขายในประชาชนทั่วไป ก็ได้รับคำยืนยันว่า เนื่องจากเป็นยาที่ควบคุมพิเศษ ให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ดังนั้น การจ่ายยาจะต้องมีใบรับรองแพทย์ ส่วนเรื่องซื้อขายทั่วไป จะขึ้นอยู่กับผู้ขาย แต่คนที่จะซื้อต้องมีใบรับรองแพทย์
“รัฐบาลยืนยันว่ายาที่จะใช้รักษาโควิด-19 ทุกขนาน ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ก็ยังคุ้มครองอยู่ การใช้ยาโดยแพทย์ต้องมีดุลพินิจ การที่ผู้ป่วยไม่ได้รับยา เช่น โมลนูพิราเวียร์ ถ้ามองอีกแง่คือ ผู้ป่วยอาการไม่ถึงขั้นต้องให้ยา ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีว่าผู้ป่วยสุขภาพดี แข็งแรง ไม่จำเป็นต้องให้ยาฆ่าไวรัส ขอให้เชื่อในดุลพินิจของแพทย์ ซึ่งจะปลอดภัย อย่าไปซื้อยากินเองเด็ดขาด เพราะผู้ขายก็ผิดกฎหมายได้ ยกเว้นมีใบสั่งแพทย์ โดยเฉพาะการหาซื้อเอง ก็ไม่รู้ว่าจะได้ยาอะไร นำเข้ามาอย่างไร” นายอนุทินกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีเพจเฟซบุ๊กโพสต์ขายยาโมลนูพิราเวียร์คอร์สละ 1,500-2,500 บาท นายอนุทินกล่าวว่า ทาง อย.ดำเนินการการนำเข้ามาขายเช่นนี้ ไม่ใช่แค่เพียงโฆษณาอย่างเดียว ยังถือเป็นการหลอกลวง ขนาดร้านยายังขายไม่ได้ การนำมาขายออนไลน์แบบนี้ ยิ่งอันตราย
“ยิ่งบอกว่า มียามาจากอินเดีย ซึ่งบริษัทผู้ผลิตโมลนูพิราเวียร์ คือ บริษัทเมอร์ค ให้การรับรอง ข้อมูลเท่านี้ก็ผิดแล้ว เพราะบริษัทยาจะให้ลิขสิทธิ์ผลิต ต้องมีการซื้อไป แต่ไม่ใช่จะเป็นยี่ห้อเดียวกัน แต่ถ้ามีการขึ้นทะเบียนกับ อย.อย่างถูกต้อง ก็ไม่ใช่เรื่องยา ซึ่งหากขึ้นทะเบียนก็ขายได้ แต่ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่ว่าขึ้นหรือไม่ขึ้น แต่อยู่ที่ว่ายังเป็นยาที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นยาควบคุมพิเศษอยู่ ฉะนั้น หากใช้ยาแล้วเกิดอันตราย ก็หาคนรับผิดชอบไม่ได้ แต่หากเป็นยาที่รัฐบาลจัดให้ แพทย์สั่งให้ ก็มีคนคอยรับรองคุณภาพ คนที่แพทย์ไม่สั่งยาให้ แล้วไปสั่งยาเอง ก็เป็นอันตราย” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามถึงผลกระทบหากมีการใช้ยาที่ซื้อเองมากๆ จะเกิดการดื้อยา นายอนุทินกล่าวว่า ยาที่ซื้อหากันใน ออนไลน์ ไม่มีใครรับรองคุณภาพยาได้เลย ดังนั้น ไม่ควรจะหาซื้อยามาใช้เอง ทั้งนี้ ทาง อย.ก็ได้เตือนแล้วว่าการซื้อยาเช่นนี้ การนำเข้าแบบนี้ ผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีประเด็นเรื่องการนำเข้ายา หากสำแดงถูกต้อง หรือผิดอย่างไร ก็ต้องให้ตำรวจตรวจสอบ
เมื่อถามถึงมีการเปรียบเทียบการขายยาโมลนูพิราเวียร์กับประเทศเพื่อนบ้านในราคาถูกกว่าที่รัฐบาลไทยจัดซื้อ พร้อมมีการวิจารณ์ว่ารัฐบาลไทยปิดกั้นการเข้าถึงยา นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ซื้อแพง ที่สำคัญเรามีคณะกรรมการวิชาการในการพิจารณาสั่งซื้อยาจากผู้ผลิตอย่างถูกต้องตามระเบียบซื้อยาตามความจำเป็นต้องใช้ วันนี้ยาโมลนูพิราเวียร์ที่จัดซื้อมีราคาถูกกว่ายาฟาวิพิราเวียร์อีก และใช้เป็นยาหลักในตอนนี้ โดยวันหนึ่งมีอัตราใช้หลักหลายแสนเม็ด
“การใช้งบประมาณกรณีโควิด-19 ของ สธ.มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้หมด เราต้องเอายาที่มีมาตรฐานมาใช้ มีการนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านการพิจารณาจากนายกรัฐมนตรี มีขั้นตอนการใช้งบประมาณซึ่งอาจเป็นงบกลางหรืองบเงินกู้” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า การที่โพสต์ข้อความทำให้คนเข้าใจผิดว่าสามารถซื้อยาโมลนูพิราเวียร์มากินเองได้ ถือเป็นความผิดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องไปถามทาง อย.ว่าเข้าข่ายโฆษณาหรือไม่ แต่ตนมองว่าไม่ควร เพราะไม่ใช่อาหารเสริม หรือวิตามิน ดังนั้น ต้องเชื่อแพทย์ในการจ่ายยา
