เปิดแดชบอร์ด สปสช. 9 ส.ค.นี้ ประชาชน – รพ.เข้าถึง 8 กลุ่มข้อมูลสุขภาพ

เปิดแดชบอร์ด สปสช. 9 ส.ค.นี้ ประชาชน – รพ.เข้าถึง 8 กลุ่มข้อมูลสุขภาพ

วันนี้ (8 สิงหาคม 2565) พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า แต่ละปี สปสช.บริหารงบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพของประชาชน และต้องตอบให้ได้ว่ามีการใช้จ่ายอย่างไร ประชาชนได้ประโยชน์หรือได้รับรับบริการหรือไม่ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ที่ สปสช. ต้องคืนข้อมูลการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพกลับคืนให้แก่สังคม เพื่อให้ประชาชนและหน่วยบริการร่วมใช้ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการกำหนด/กำกับติดตามนโยบายสุขภาพได้ โดย สปสช.จะนำเสนอในรูปแบบของแดชบอร์ด ซึ่งก็คือหน้าเว็บเพจที่สรุปข้อมูลต่างๆจากฐานข้อมูลของ สปสช. มานำเสนอในรูปแบบของอินโฟกราฟฟิกเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย โดยจะเริ่มเปิดให้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป

พญ.ลลิตยา กล่าวว่า การนำเสนอข้อมูลแบบแดชบอร์ดมีใช้กับภาคเอกชนมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ในส่วนของ สปสช. เริ่มใช้นำมาใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งขณะนั้นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ากำลังระบาดหนัก และได้นำแดชบอร์ดมาใช้ในการติดตามสถานการณ์และการเข้าถึงการรักษาของประชาชน และเมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. จึงมีแนวคิดนำแดชบอร์ดมาใช้กับอีกหลายกลุ่มโรค เพื่อให้ประชาชนและหน่วยบริการได้ใช้ประโยชน์หรือกำกับติดตามว่าประชาชนได้รับบริการสุขภาพตามเป้าหมายที่กำหนดมากน้อยแค่ไหน

“โดยข้อมูลที่เตรียมเผยแพร่ในแดชบอร์ดนี้ ประกอบด้วย 1.ข้อมูลโควิด-19 2.การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 3.ไตวายเรื้อรัง 4.เบาหวาน/ความดันโลหิตสูง 5.วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 6. บริการเทเลเมดิซีน (Telemedicine) 7.มะเร็งรักษาทุกที่ และ 8.การเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ เราแบ่งผู้ใช้เป็น 3 กลุ่มคือ 1.ประชาชนทั่วไป 2.หน่วยบริการ และ 3.นักวิชาการ/นักวิจัย ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2565 จะทยอยอัพโหลดข้อมูลให้แต่ละกลุ่มเข้ามาดูได้ แต่ในส่วนของประชาชนอาจต้องปรับรูปแบบข้อมูลให้เข้าใจง่ายขึ้น เช่น ทำภาษาไทยกำกับศัพท์เทคนิคทางการแพทย์ เป็นต้น ส่วนกลุ่มของหน่วยบริการไม่น่าจะมีปัญหากับศัพท์เทคนิคอะไรอยู่แล้ว และในส่วนของนักวิชาการ/นักวิจัย ในขั้นตอนต่อไป สปสช.จะจัดทำชุดข้อมูลมาตรฐานให้สามารถดาวน์โหลดเอาไปใช้ในการศึกษาวิจัยได้ด้วย แต่ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล เพราะเราจะเข้ารหัสข้อมูลส่วนบุคคล ผู้นำข้อมูลไปใช้จะไม่ทราบว่าเป็นใคร เพศอะไร หรือมีเลข 13 หลักอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”พญ.ลลิตยา กล่าว

Advertisement

พญ.ลลิตยา กล่าวด้วยว่า สำหรับทิศทางในอนาคต สปสช.จะเน้นการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อบริหารงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตรงความต้องการของประชาชน ตลอดจนเปิดให้สาธารณะมาใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ร่วมกัน เพื่อจะได้นำไปพัฒนาปรับปรุงระบบสาธารณสุขโดยรวม

ด้าน นายประเทือง เผ่าดิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนข้อมูลดิจิทัล สปสช. กล่าวว่า ฐานข้อมูลของ สปสช. มีขนาดใหญ่มาก แต่ละปีมีข้อมูลผู้ป่วยนอกและข้อมูลการส่งเสริมสุขภาพกว่า 200 ล้านเรคคอร์ด ข้อมูลผู้ป่วยในอีกกว่า 8 ล้านเรคคอร์ด และข้อมูลรวมตั้งแต่จัดตั้ง สปสช. มีกว่า 2,000 ล้านเรคคอร์ด ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและพร้อมใช้งาน ตัวอย่างเช่น ข้อมูลการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ระบบแดชบอร์ดจะมีข้อมูลตั้งแต่สถานการณ์การเข้าถึงบริการของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การฝากครรภ์ และบริการส่งเสริมสุขภาพอื่นๆ ผู้ใช้แดชบอร์ดจะเห็นสถานการณ์หมดว่าประชาชนเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพในแต่ละรายการมากน้อยเท่าใด งบประมาณที่ สปสช. ได้รับจัดสรรมาจากรัฐบาลมีการใช้ไปอย่างไรบ้าง ซึ่งนอกจากดูภาพรวมในระดับประเทศแล้ว ยังสามารถเจาะลึกเป็นรายเขตสุขภาพ รายจังหวัดได้ สามารถดูประสิทธิภาพการเบิกจ่ายของหน่วยบริการได้ว่าเป็นอย่างไร และหน่วยบริการยังสามารถตรวจสอบความคืบหน้าในการเบิกจ่ายเงิยชดเชยค่าบริการของ สปสช. ได้ว่ารายการที่ส่งเบิกเข้ามานั้นอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว

Advertisement

“หรือกรณีผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง แดชบอร์ดจะแสดงจำนวนผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ข้อมูลจำนวนผู้ป่วยที่ล้างไตด้วยเครื่องอัตโนมัติ ผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้อง และผู้ที่ฟอกเลือด ทำให้สามารถเห็นภาพรวมสถานการณ์ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังในระบบหลักประกันสุขภาพ และยังสามารถแสดงสถานการณ์ของหน่วยฟอกไตในแต่ละพื้นที่ว่ามีจำนวนเครื่องฟอกไตเท่าใด มีจำนวนแพทย์เท่าใด จำนวนผู้รับบริการเทียบกับศักยภาพแล้วเป็นอย่างไร เพียงพอหรือไม่เพียงพอ รวมทั้งสามารถดูได้ว่าพื้นที่ไหนที่ยังขาดแคลนและจำเป็นต้องเพิ่มหน่วยบริการ หรือ ข้อมูลการเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ สปสช.มีโครงการพิเศษในการจัดซื้อยาราคาแพงสำหรับผู้ป่วยบางโรค ก็สามารถดูข้อมูลการใช้ยา จำนวนสต๊อกยาของแต่ละโรงพยาบาลได้ว่าเหลือเท่าใด เป็นต้น ซึ่งนอกจากหน่วยบริการแล้ว ประชาชนก็สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้ เช่น กรณีเป็นผู้ป่วยไตวายเรื้อรังแล้วจำเป็นต้องย้ายที่อยู่ ก็สามารถตรวจสอบได้ว่าหน่วยฟอกไตในพื้นที่ที่จะไปพักอาศัยมีจำนวนเท่าใด ตั้งอยู่จุดไหน สามารถรองรับผู้ป่วยรายใหม่ได้หรือไม่ เป็นต้น” นายประเทือง กล่าวและว่า ในส่วนของช่องทางการเข้าไปสู่แดชบอร์ด สปสช.นั้น ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ จะมีลิ้งค์ให้คลิกเข้าระบบแดชบอร์ด บนหน้าเว็บไซต์ของ สปสช. (www.nhso.go.th) รวมทั้งในเฟซบุ๊ก สปสช. (Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพ) รวมทั้งประสานกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการเผยแพร่ช่องทางการเข้าระบบแดชบอร์ดแก่หน่วยบริการต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image