หมออุดม ชม รมว.อนุทิน ลีดเดอร์ชิป พลิกโฉมสาธารณสุขไทยจากความเข้าใจ-ทุ่มเท

หมออุดม ชม รมว.อนุทิน ลีดเดอร์ชิป พลิกโฉมสาธารณสุขไทยจากความเข้าใจ-ทุ่มเท

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข กล่าวชื่นชม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข และผู้บริหาร สธ. เพื่อสรุปผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ในช่วง 5 ปี และจะครบวาระในวันที่ 14 สิงหาคม 2565 ว่าตนได้รายงานผลสำเร็จของการดำเนินงานปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ซึ่งจะครบวาระ 5 ปี ตาม พ.ร.บ.

“ต้องเรียนว่า ปัจจัยความสำเร็จ 2 อย่าง คือ 1.ความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทุกกระทรวง ที่มี สธ.เป็นหน่วยงานหลัก และ 2.Leadership (ภาวะผู้นำ) ซึ่งไม่ได้ชื่นชม เพราะว่ารองนายกฯยืนอยู่ข้างๆ แต่หากไม่ได้รัฐมนตรีว่าการ สธ.ที่เข้าใจ และทุ่มเทเช่นนี้ ทุกอย่างจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ฉะนั้น รองนายกฯได้มาดูแล สนับสนุนการทำงานทุกมิติอย่างมาก ทำให้ทุกอย่างเคลื่อนออกไป เห็นผลสัมฤทธิ์ในรูปธรรมไม่ใช่กระดาษ ร่วมกับความเป็นลีดเดอร์ชิป ของผู้บริหาร สธ.ทุกระดับไปจนถึงทุกภาคส่วน ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นแล้ว ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบงานอย่างพลิกโฉม (Game Changer) และอีกอย่างคือ ไปช่วยหน่วยงานที่ทำอยู่แล้ว ยกระดับการทำงาน เร่งรัดให้เกิดผลสำเร็จขึ้น โดยตัวอย่างความสำเร็จ เช่น Big rock 1 การปฏิรูปการจัดการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข โรคระบาดระดับชาติและโรคอุบัติใหม่ ก็มีการปฏิรูประบบปฐมภูมิในกรุงเทพมหานคร ซึ่งช่วงโควิด-19 เราจะเห็นปัญหาในกรุงเทพฯมาก เพราะไม่มีระบบปฐมภูมิปะทะข้างหน้า ซึ่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) รับไปแล้ว มีการทำแซนด์บ็อกซ์ 2 แห่ง คือ ราชพิพัฒน์โมเดล และดุสิตโมเดล” ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.อุดมกล่าว

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.อุดม กล่าวว่า การเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) และหน่วยงานต่างๆ มาร่วมกันเชื่อมโยง ก็จะตอบสนองงาน 30 บาทรักษาทุกที่ เพราะอย่างผู้ป่วยอยู่ รพ.ต้นสังกัดแห่งหนึ่ง เมื่อไปรักษาที่หนึ่งก็จะไม่มีทางหาข้อมูลเก่าได้

Advertisement

“ถ้าเชื่อมข้อมูลกัน อย่างอยู่ จ.บุรีรัมย์ไป จ.เชียงใหม่ ก็มีข้อมูลดึงได้ทันที รักษาเสร็จส่งข้อมูลกลับต้นสังกัด ซึ่งการเสนอตั้งหน่วยงานกลางระดับชาติด้านสุขภาพดิจิทัล รองนายกฯเห็นชอบแล้ว กำลังเสนอนายกฯเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนการจัดทำเครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพดิจิทัล กสทช.ก็สนับสนุนงบประมาณ 4 พันล้านบาท ในการดำเนินงาน หรือ Big Rock 2 การดูแลโรคไม่ติดต่อ ก็เกิด Healthy Workplace Policy ให้ทุกสถานประกอบการในระบบ HR ต้องมี Chief Health Officer ที่ต้องรู้ข้อมูลสุขภาพพนักงาน เช่น กี่คนเป็นเบาหวาน ความดัน ติดตามดูผลตรวจสุขภาพ เพื่อลดการเจ็บป่วย ไม่ใช่ทำงานแล้วเกิดโรคหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ ทั้งที่เป็นวัยทำงาน” ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.อุดม กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image