อนุทิน โต้หมอวาโย ยันงบ สธ.ลงบุรีรัมย์ มี นพ.สสจ.ชงขอตามระเบียบ ไม่เอื้อพวกพ้อง
จากกรณี นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ 2 โดยมาตรา 25 งบประมาณกระทรวงสาธารณสุขวงเงิน 37,219 ล้านบาท เน้นโครงการก่อสร้างไม่สัมพันธ์กับการจัดซื้อครุภัณฑ์ โดยเฉพาะโรงพยาบาล (รพ.) บุรีรัมย์ ที่จะได้รับการจัดสรรถึง 598.5 ล้านบาท มากกว่า รพ.อื่นๆ แสดงให้เห็นถึงการจัดสรรงบกระจุกตัว ไม่เป็นธรรม อาจเอื้อพวกพ้องหรือไม่ ไม่สัมพันธ์กับประชาชนนั้น
วันนี้ (22 สิงหาคม 2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงสาธารณสุข ถึงกรณีนี้ ว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้มี ส.ส.ที่ จ.บุรีรัมย์ พื้นที่เดียว
“เราไม่ใช่พรรคพลังบุรีรัมย์ แต่เป็นพรรคภูมิใจไทย มี ส.ส.ทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก มีทุกที่ ดังนั้น การเลือกที่รักมักที่ชังไม่มีอยู่แล้ว ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการ สธ.ของประเทศไทย ไม่ใช่รัฐมนตรีว่าการ สธ.ประจำ จ.บุรีรัมย์ การเสนองบประมาณของ รพ.ต่างๆ เป็นหน้าที่ของนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) บุรีรัมย์ เสนอผ่านคณะกรรมการเขตสุขภาพ ตามระบบ service plan เป็นผู้พิจารณา ส่งมาที่ส่วนกลาง เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำ เสนอมาแล้วก็ถูกตัดไปตั้งเยอะ เพราะฉะนั้น ผมยืนยันว่าไม่ได้มีการจัดงบประมาณไปลง จ.บุรีรัมย์ เพื่อเอื้อพวกพ้องอะไร ทุกอย่างมีเหตุผลรองรับ เราต้องเชื่อถือข้าราชการที่มีการกลั่นกรองมาแล้วเราจัดสรรทุกที่ คนป่วยไม่ได้มีแค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง อีกทั้งงบประมาณ สธ. ถูกตัดไปตั้งเยอะ ทำไมไม่ไปทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนตรงนั้นด้วย เสนอขาขึ้นไป 100% กลับลงมาแค่ 40% ไปทวง 60% ให้พี่น้องประชาชนเถอะ เราอยากได้ตรงนี้มากกว่า อย่าไปเล่นการเมืองกับระบบสาธารณสุข เพราะงบที่ถูกตัดไปนั้น มีผลกระทบต่อการบริหารจัดการระบบสุขภาพแน่นอน ใครตัดก็รับผิดชอบ” นายอนุทินกล่าว
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงใน สธ. กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดจำนวนงบประมาณแต่ละแห่ง ย่อมมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว จะเอาแต่ละจังหวัดมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะแต่ละแห่งมีการพัฒนาในแต่ละส่วนต่างกัน ก็จะมีการจัดทำงบประมาณให้สอดคล้องกับบริการ อย่างกรณี จ.บุรีรัมย์ จะมีศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษา ที่เอาไว้จัดการเรียนการสอน ต้องมีการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับ ซึ่ง รพ.ที่มีศูนย์แพทย์สาธารณสุขศาสตร์ แต่ละแห่งจะมีงบประมาณไปสร้างศูนย์ฯ เพื่อจัดการเรียนการสอนอยู่แล้ว
“กรณีที่มีการระบุว่า จัดงบประมาณไม่สอดคล้องกับการจัดซื้อครุภัณฑ์นั้น บางครั้งหากเป็นก้อนเล็กแต่ละ รพ.ก็จะมีการใช้เงินบำรุง รพ.ในการจัดซื้อ ไม่ได้มีการตั้งของบแต่อย่างใด เพราะเรื่องนี้จะแล้วแต่ว่า รพ.ไหนมีความต้องการจัดซื้อครุภัณฑ์ที่สอดคล้องกับบริการอย่างไร ส่วนเรื่องการของบ ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการก่อสร้างใหญ่ๆ” แหล่งข่าวกล่าว
