อนุทินถกสหรัฐ จ่อแก้สัญญาไฟเซอร์นำเข้าวัคซีนโควิดเด็ก 6 เดือน 3 ล้านโดส
วันนี้ (24 สิงหาคม) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. เปิดเผยภายหลังหารือทวิภาคีร่วมกับ Ms.Andrea Palm รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นการหารือระดับทวิภาคีนอกรอบ ก่อนการประชุมกลุ่มเศรษฐกิจเอเปค
“ซึ่งในนามรัฐบาลไทยได้ขอบคุณความช่วยเหลือต่างๆ จากรัฐบาลสหรัฐ ทั้งการบริจาควัคซีน mRNA มาให้หลายล้านโดส การส่งเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ต่างๆ มาช่วยเหลือ ขณะที่ทางสหรัฐก็ได้ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ส่งข้อมูลวิชาการ รวมถึงตัวอย่างเชื้อไปให้ทางการสหรัฐ เพื่อการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนค่อนข้างสูงในการตอบสนองนโยบายและมาตรการต่างๆ จากรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย ที่ยังปฏิบัติอยู่ ขณะที่สหรัฐไม่สามารถบังคับได้ รวมถึงประเทศไทยยังดูแลผู้ติดเชื้ออย่างเต็มที่ในการรักษาพยาบาล การฉีดวัคซีน ทำให้เห็นถึงระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง ที่สามารถแก้วิกฤตต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้” นายอนุทินกล่าว
รัฐมนตรีว่าการ สธ. กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี ว่าได้มอบหมายให้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เจรจากับบริษัท ไฟเซอร์ เรียบร้อยแล้ว ในการปรับปรุงสัญญาการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ล็อตเดิม มาเป็นสัดส่วนวัคซีนสำหรับเด็กเล็กดังกล่าว จำนวน 3 ล้านโดส ซึ่งจะมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เบื้องต้นทางบริษัท ไฟเซอร์ ก็เห็นชอบในหลักการที่ให้ปรับเปลี่ยนได้ ไม่มีปัญหา และคาดว่าน่าจะสามารถนำเข้ามาได้โดยเร็วที่สุด เพื่อฉีดให้กับเด็กเล็กในกลุ่มวัยดังกล่าว
