ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ โต้ปม ‘หั่นงบ’ ลั่น กำกับมิติใหม่ มองแบบเก่าเห็นแค่ ‘หัวคะแนน’ ยัน เพิ่ม 50 ล้านทุกเขต

ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ เล่าระเบียบ โต้ปม ‘หั่นงบ’ ยันเพิ่มเฉลี่ย 50 ล้านต่อเขต ลั่น รองทวิดา ‘กำกับมิติใหม่ มองแบบเก่า’ เห็นแค่หัวคะแนน

เมื่อวันที่ 12 กันยายน สืบเนื่องกรณี นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดเผยว่า พบความผิดปกติในงบประมาณกรุงเทพฯ ปี 2566 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค.2565 จำนวน 79,719 ล้านบาท โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อ่อนไหวน้ำท่วม พบว่าเขตจตุจักร ซึ่งมีจุดเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม 11 จุด มีโครงการโยธาทางระบายน้ำถูกตัดงบประมาณทิ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นโครงการพาคนไปเที่ยวสัมมนาสูงถึง 9,783,300 บาท ต่อมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ตอบประเด็นดังกล่าวว่า ไม่น่าเป็นเช่นนั้น โดยสั่งการให้ ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. ตรวจสอบกรณีดังกล่าว (อ่านข่าว : ชัชชาติตอบข้อสงสัย โยกงบจัดการน้ำเขตจตุจักรพาคนไปเที่ยว บอก ‘ไม่น่าใช่’ ขอบคุณช่วยชี้แนะ รองฯทวิดาดูอยู่)

ด้าน นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผอ.เขตจตุจักร ให้สัมภาษณ์ ‘มติชน’ ตอบประเด็นดังกล่าวว่า เป็นคนละส่วนกับงบประมาณด้านพัฒนาบุคลากร ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่กัน โดยงบที่ทางเขตขอไปก็ได้รับมาตามปกติ ไม่ได้ถูกตัด ทั้งยังสามารถของบประมาณส่วนกลางเพิ่มเติมได้อีกด้วย นั้น (อ่านข่าว : ฟังจากปาก ผอ.เขต หลัง อรรถวิชช์ โวย กทม.โยกงบจตุจักร พาคนไปเที่ยว ยัน ‘ไม่ถูกตัด แถมขอเพิ่มได้’)

‘จักกพันธุ์’ ฟันธง ไม่มีเด็ดขาด! ตัดงบฯเขต พาหัวคะแนนเที่ยว ยัน ต้องฝ่าด่านบริหาร ทำตามหลักทุกอย่าง

‘ทวิดา’ ยกมือทาบอก ปม ‘งบฯเขต’ เผยคุมเอง จักกพันธุ์ตรวจทุกบรรทัด ชัชชาติสั่งสแกนเข้ม

Advertisement

‘อรรถวิชช์’ ขยี้ซ้ำ งบ กทม.พาเที่ยวไม่เหมาะ ยันออกมาพูดเพื่อช่วยชัชชาติ-ปกป้องงบคนกรุง

นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า งบประมาณที่เข้าสภา กทม. ครั้งนี้ เป็นงบประมาณที่เราแก้ค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นของเก่า แต่คณะกรรมการวิสามัญ ได้ปรับลดจาก 79,000 ล้านบาท ไปประมาณ 4,800 กว่าล้านบาท แต่หลังจากนั้น ฝ่ายบริหารได้ขอแปรญัตติเพื่อดึงงบกลับมา ซึ่งสิ่งที่เราแปรฯกลับ ไม่ได้แปรฯกลับเฉพาะส่วนของงานหลัก แต่เรารับนโยบายของท่านผู้ว่าฯกทม. ไว้หมด

“ปรากฏว่า เราลงไปจ่ายที่เขต พบว่างบเขตที่ตรงตามงบเดิม คืองบพัฒนา เช่น ซ่อมแอร์ ปรับปรุง ซ่อมนู่นซ่อมนี่ เฉลี่ย 50 เขต มีแค่ส่วนล่างเขตละ 10 ล้าน เราก็กลับมาคิดกันกับฝ่ายบริหารว่า ทำอย่างนี้ เส้นเลือดฝอยของท่านผู้ว่าฯ เดินไม่ได้

Advertisement

เราปรับโดยเฉลี่ย ประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อเขต เรียกว่ากระจายงบลงไป เพราะเขตทำถนน 3-4-5 ล้าน บางเขต 70 ล้านคืองบประมาณที่เราใส่เข้าไป ส่วนหนึ่งเราฟังเสียงประชาชน ผ่านผู้บริหารเขต ว่าการกระจายงานต่างๆ ควรจะให้เกิดการมีส่วนร่วมเป็นเรื่องสำคัญ คือเหตุผลของการมีงบ แต่ถ้าคนมองเหตุแบบเก่า จะมองเห็นแค่ผ่านหัวคะแนนอย่างเดียว นายต่อศักดิ์กล่าว และว่า

ก็ขอย้ำว่า ท่านรองทวิดา จะเป็นคนกำกับดูแล ให้เป็นมิติใหม่ ย้ำว่างบ 4,800 ล้านบาท ที่ถูกตัด ในการพิจารณาสมัยวิสามัญ ฝ่ายบริหารเอากลับหมด แล้วกระจายไปอยู่เขต ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ที่เหลือกลับไปอยู่ที่สำนัก ฉะนั้น เราจะเห็นว่าเขตที่ไม่มีเงินเลยในงบประมาณเดิม วันนี้มีงบประมาณเฉลี่ย 50 ล้านบาทต่อเขต อันนี้ขอยืนยัน

ด้าน นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเสริมว่า มีอยู่คำพูดหนึ่ง มีคำว่า “ตัด” ผมเน้นว่าเราไม่ได้ตัด แต่เราพิจารณาว่าโครงการ หรือรายการใด ที่สำนัก หรือสำนักงานเขตทำงานได้ล่าช้า ถ้าในกรณีทำงานล่าช้า มีงบเยอะอยู่ ก็ไม่สามารถใช้เงินได้ เพราะฉะนั้น เราจึงลดเงินส่วนนั้นมา ดังนั้น คำว่า “ตัด” คงไม่ใช่ แต่ “ลดเงิน” ใช่

“พอลดเงินไปแล้ว โครงการนั้นยังมีอยู่ ถ้าในกรณีสำนักงานเขตทำงานได้เร็วขึ้น ก็สามารถเอาเงินงบกลาง ไปชำระหนี้ได้ แต่ในขณะเดียวกัน เงินที่เราลดมา ตามข้อบัญญัติ ฝ่ายบริหารแปรฯ เข้าไปได้ อาจจะเป็นโครงการใหม่ หรือโครงการอะไรที่มีความเหมาะสม” นายจักกพันธุ์ชี้

เมื่อถามว่า เรื่องของจำนวนงบประมาณ มีการตั้งข้อสังเกตว่า 10 ล้านบาท เป็นงบที่ถือว่าเหมาะสมสำหรับการพัฒนาบุคลากร หรือไม่ ?

นายจักกพันธุ์กล่าวว่า 10 ล้านบาทนี้ คืองบ 5 โครงการ ถ้าเป็นโครงการรายย่อยๆ 1 โครงการ ก็ 1-2 ล้านบาทแล้ว แต่ละโครงการใช้พัฒนาบุคลากร ทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน โครงการหนึ่ง ประมาณ 800 คน ซึ่งถือว่าเยอะ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image