อนุทิน ลั่น! 1 ต.ค.เป็นต้นไป คนไทยใช้ชีวิตให้เป็นปกติที่สุด สวมแมสก์ตามความเสี่ยง บูสต์วัคซีน
วันนี้ (30 กันยายน 2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปกว่า 1.9 ล้านคน ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขณะที่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ประเทศไทยจะมีการผ่อนคลายมาตรการสังคมแบบเต็มรูปแบบ ว่า ทาง สธ.ได้ประสานไปยังเครือข่ายในพื้นที่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ให้เร่งรณรงค์ผู้ที่ยังไม่รับวัคซีนเข้ารับโดยด่วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะวัคซีนเท่านั้นที่จะเป็นทางออก ไม่ให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิชาการของ สธ. มีการติดตามข้อมูลผู้ที่รับวัคซีนโควิด-19 ในเข็มที่ 3-4 แม้จะมีการติดเชื้อแต่อาการไม่รุนแรง และไม่มีผู้เสียชีวิต จึงขอให้ทุกคนเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์ โดส) โดยเฉพาะผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะมีคำแนะนำกับประชาชนอย่างไร โดยเฉพาะการสวมหน้ากาก นายอนุทินกล่าวว่า เราสามารถประเมินความเสี่ยงได้ว่า หากเราอยู่ในครอบครัว ก็สามารถใช้ชีวิตให้ปกติมากที่สุดได้ แต่ถ้าเข้าสถานที่เสี่ยงก็สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หรือหากเป็นพื้นที่ที่เว้นระยะห่างได้ก็สามารถถอดหน้ากากได้
“วันนี้เราฉีดวัคซีนกันมากแล้ว ดังนั้น อย่าไปกลัว ให้ใช้ชีวิตแบบปกติจริงๆ รวมถึงฉีดวัคซีนให้ครบ หากฉีดเข็มที่ 3 นานเกิน 4 เดือน ก็สามารถมารับเข็มที่ 4 ได้ โดยเฉพาะควรพาผู้สูงอายุไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น” นายอนุทินกล่าว