สธ.เร่งแผนกระจายวัคซีนโควิดเด็กต่ำกว่า 5 ปี รพ.ทั่วปท. จ่อปักแขน ต.ค.นี้

สธ.เร่งแผนกระจายวัคซีนโควิดเด็กต่ำกว่า 5 ปี รพ.ทั่วปท. จ่อปักแขน ต.ค.นี้

วันนี้ (5 ตุลาคม 2565) สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จัดเสวนาวิชาการผ่านระบบออนไลน์ “ข้อมูลวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน – 5 ปี”

พญ.ปิยนิตย์ ธรรมาภรณ์พิลาศ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สำหรับวัคซีนในเด็กอายุ 6 เดือน จนถึงน้อยกว่า 5 ปี ที่ใช้ในประเทศไทยนั้น มีวัคซีนไฟเซอร์เข้าในช่วงเดือนตุลาคม โดยวัคซีนมีรูปลักษณ์เปลี่ยนไป คือ ฝาสีแดงเข้ม ขวดก็แดงเข้มเช่นกัน จะทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแยกง่ายขึ้น โดยวัคซีนชนิดนี้ต้องผสมตัวทำละลายตามที่กำหนด ซึ่ง 1 ขวด ฉีดได้ 10 โดส หรือ 10 คน โดยมีขนาดโดสละ 0.2 มิลลิลิตร หรือ 3 ไมโครกรัม ซึ่งถือว่าปริมาณน้อย โดยต้องฉีดจำนวน 3 เข็ม คือ เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ห่างกัน 3-8 สัปดาห์ ที่แนะนำคือ 4 สัปดาห์ ส่วนเข็มที่ 2 และ เข็มที่ 3 ให้ฉีดได้ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ขึ้นไป

Advertisement

พญ.ปิยนิตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับอาการข้างเคียงไม่รุนแรง มีความปลอดภัยดี โดยส่วนใหญ่จะเจ็บบริเวณที่ฉีด มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร โดยอาการข้างเคียงเหมือนกันทั้งเข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 ไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรงในการศึกษาที่ผ่านมา แต่มีบางคนที่ขึ้นผื่น ตัวบวมจากการแพ้ แต่ไม่มีอาการรุนแรงช็อก อย่างไรก็ตาม จำนวนตัวอย่างที่ศึกษาที่ผ่านมาไม่ได้มากเท่ากับการใช้จริง ซึ่งก็ต้องมีการติดตามต่อไป และหลังฉีดเบื้องต้นต้องติดตามอาการ 15 นาทีเป็นอย่างน้อย

“จากการศึกษาภูมิคุ้มกันพบว่า ฉีด 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันไม่สูงมากนัก จึงแนะนำว่า ต้องฉีด 3 เข็ม ซึ่งจะทำให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลยังพบว่า หลังการฉีดมีการติดตามกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ฉีดครบ 3 เข็ม อย่างน้อย 7 วันพบประสิทธิผล ลดการติดเชื้อได้ประมาณร้อยละ 75-80 แต่อันนี้เป็นการศึกษาช่วงหลังฉีดใหม่ๆ ซึ่งประสิทธิผลการป้องกันติดเชื้อลดลงเร็วมาก จึงอย่าหวังเรื่องป้องกันติดเชื้อ แต่เราหวังป้องกันอาการรุนแรง ลดการเสียชีวิตมากกว่า” พญ.ปิยนิตย์ กล่าว

ทั้งนี้ พญ.ปิยนิตย์ กล่าวว่า กลุ่มเด็กที่ควรเข้ารับวัคซีน คือ กลุ่มเด็กที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง ซึ่งเป็นไปตามข้อแนะนำของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ได้แก่ เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี เด็กคลอดก่อนกำหนด เด็กอ้วน เด็กที่มีโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งหอบหืด เด็กที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรคหลอดเลือดสมอง กลุ่มโรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ โรคเบาหวาน และกลุ่มโรคพันธุกรรม รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ ฯลฯ

Advertisement

“มีข้อควรระมัดระวัง โดยเด็กและวัยรุ่นที่เคยมีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบที่สัมพันธ์กับการฉีดวัคซีน mRNA มาก่อน ก็ให้เลื่อนการฉีดเข็มถัดไปไปก่อน แต่กรณีนี้ที่ผ่านมา ไม่เคยพบในเด็กเล็ก ขอย้ำว่า การรับวัคซีนเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก ไม่ได้เป็นเงื่อนไขของการไปโรงเรียน” พญ.ปิยนิตย์ กล่าวและว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถฉีดร่วมกับวัคซีนชนิดอื่นได้

พญ.ปิยนิตย์ กล่าวถึงกรณีมีคำถามว่า หากเด็กเล็กฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 1 เข็ม แต่ติดโควิด-19 ก่อนฉีดเข็มที่ 2 ยังต้องฉีดหรือไม่ และหากฉีดได้จะต้องทิ้งระยะห่างเท่าไร ว่า หากเด็กติดเชื้อโควิด-19 ให้บวก 3 เดือนไปก่อนค่อยฉีดเข็มถัดไป กล่าวคือ เว้น 3 เดือน ค่อยฉีดอีกครั้งจนครบโดส

“วัคซีนไฟเซอร์เด็กเล็กจะเริ่มฉีดในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนจะฉีดอย่างไร จะมีการกระจายและให้ทางจังหวัดเป็นหน่วยบริหารจัดการ” พญ.ปิยนิตย์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ สำหรับวัคซีนไฟเซอร์เด็กเล็ก คาดว่าจะมีการกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ โดยทางจังหวัดจะเป็นผู้บริหารจัดการช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งผู้ปกครองสามารถสอบถามได้ยังโรงพยาบาลใกล้บ้าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image