88 แคนนาเทค จับมือ กรมแพทย์แผนไทยฯ ตั้งเป้านำกัญชา-กัญชงรุกตลาดสุขภาพ
วันนี้ (13 ตุลาคม 2565) นายพรประสิทธิ์ สีบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท 88 แคนนาเทค จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศไทยปลดล็อกกัญชา กัญชง พ้นจากยาเสพติดให้โทษ ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาส ในเรื่องการลงทุนทางสุขภาพในระยะยาว โดยธุรกิจกัญชา กัญชง เป็นเทรนด์ต่างประเทศที่มีการใช้กัญชาทางการแพทย์ และกัญชงในเชิงพาณิชย์มานาน บริษัทเล็งเห็นโอกาสจึงได้รุกเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าว และจดทะเบียนตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 2562 ภายใต้แนวคิด “เราปลูกสุขภาพ”
“สำหรับ 88 แคนนาเทค ได้ทำการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชงเป็นรายแรกๆ ในประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทพันธมิตรระดับโลกจากหลากหลายประเทศ จนก่อเกิดเป็นโมเดลธุรกิจที่ครบวงจรตั้งแต่ การปลูก สกัด แปรรูป โดยในส่วนของต้นน้ำ มีพันธมิตร คือ บริษัทไฟลอส ไบโอซาย ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์กัญชา กัญชง ใหญ่เป็นอันดับ 1 ใน 5 ของสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงสำหรับปี 2565 ประมาณ 1 แสนเมล็ด เพื่อปลูกในพื้นที่โรงเรือน (Green House) ของบริษัท ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.เชียงราย จำนวน 2 หมื่นเมล็ด
“และที่เหลือก็ส่งให้กับทาง Contract Framing ของเราอีกหลายแห่ง เช่น MDX Green Energy สุพรรณ กรีนเทค และโชคอนันต์ ฟาร์ม เป็นต้น โดยการปลูกของ Contract Farming ต้องปลูกในโรงเรือน และต้องได้รับมาตรฐาน GAP ของกรมวิชาการเกษตร เท่านั้น สำหรับฟาร์มที่ จ.เชียงราย ได้เก็บผลผลิตชุดแรกไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา” นายพรประสิทธิ์กล่าว และว่า สำหรับกลางน้ำ หรือขั้นตอนการสกัด เดิมตั้งใจทำโรงสกัดในฐานะภาคเอกชนเต็มตัว แต่หลังจากร่วมงานกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งมีโรงสกัดกัญชาเพื่อนำไปทำยา เมตตาโอสถ ซึ่งต้องใช้วัตถุดิบจากกัญชาขณะเดียวกัน ก็มีภารกิจในการทำยา การุณโอสถ โดยใช้ผลผลิตของกัญชง คือ สารซีบีดี (CBD) บริษัทจึงตัดสินใจทำโรงสกัดร่วมกัน โดยบริษัทสนับสนุนในเรื่องของเครื่องจักรทั้งหมด และทำงานร่วมกันในลักษณะของโรงสกัดกลาง ซึ่งกรมแพทย์แผนไทยฯ และ 88 แคนนาเทค สามารถนำกัญชงมาสกัดที่โรงงาน ขณะเดียวกัน เกษตรกรก็สามารถนำกัญชงเข้าไปจ้างสกัดได้
นายพรประสิทธิ์กล่าวว่า ในส่วนของปลายน้ำ เนื่องจากสารสกัดในกัญชง มีสารที่เรียกว่า Cannabidiol หรือ ซีบีดี เป็นสารสำคัญ ซึ่งไม่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท มีคุณสมบัติทางยาที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ลดความวิตกกังวล เพิ่มความอยากอาหาร ช่วยให้นอนหลับสบาย และลดการอักเสบ มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดเลือนริ้วรอย เป็นต้น จากคุณสมบัติดังกล่าว จึงนำมาเป็นสารสกัดในผลิตภัณฑ์ โดยพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าเป็นกลุ่มแรก ภายใต้แบรนด์ CannBE ซึ่งในช่วงแรกจะออกวางตลาด 3 ชนิด โดยจำหน่ายผ่านออนไลน์ และตัวแทนจำหน่าย ประกอบด้วย CBD anti acne serum ขนาด 30 มล., CBD anti acne cream ขนาด 10 กรัม โดยโฟกัสที่กลุ่มวัยรุ่น คนหนุ่มสาว ที่มีปัญหาเรื่องการดูแลผิวหน้าและมีความกังวลเรื่องสิว และ CBD anti aging serum ขนาด 30 มล. โดยกลุ่มเป้าหมาย คือผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าเพื่อป้องกันและลดเลือนริ้วรอยที่มาก่อนวัย
“นอกจากนี้ ได้ต่อยอดสู่เรื่องของ Wellness โดยพร้อมเปิดตัวคลินิก CannaHealth คลินิกการแพทย์และการดูแลสุขภาพองค์รวมที่ใช้กัญชงและกัญชาร่วมกับการรักษาของแพทย์แผนไทยประยุกต์แห่งแรกที่ครบวงจร ซึ่งคลินิก CannaHealth สามารถจ่ายยากัญชาและกัญชง จากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และกรมแพทย์แผนไทยฯ ได้ ตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วยสมุนไพรทางเลือก” นายพรประสิทธิ์ กล่าวและว่า 88 แคนนาเทค วางแผนการตลาดไว้สำหรับในประเทศในสัดส่วนร้อยละ 40 และตลาดส่งออกในสัดส่วนร้อยละ 60 ทั้งในรูปของวัตถุดิบ น้ำมัน CBD Oil จากช่อดอกกัญชง และผลิตภัณฑ์ทั้งเครื่องสำอาง สมุนไพร อาหารเสริม ซึ่งขณะนี้ได้รับการติดต่อซื้อจากลูกค้าใน 7-8 ประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ อังกฤษ เยอรมนี เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และตุรกี เป็นต้น ประมาณการว่าภายใน ปี 2566 บริษัทจะมีรายได้ 1,000 ล้านบาท จากผลิตภัณฑ์กว่า 1.2 ล้านยูนิต ที่จะทยอยออกสู่ตลาดในไตรมาส 4 ของปีนี้
