หมอชี้สัญญาณอันตราย วัยรุ่นหญิงไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงกว่าชาย เหตุใส่สารปรุงรส แต่งกลิ่นนับหมื่นชนิด
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ผศ.ศรัณญา เบญจกุล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในประชากรไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป เพศชาย ร้อยละ 0.8 เพศหญิง ร้อยละ 1.9 ขณะที่ผลการสำรวจภาวะสุขภาพของนักเรียนอายุ 13-17 ปี
โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปี 2564 พบว่า นักเรียนชายสูบบุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 18.7 นักเรียนหญิง ร้อยละ 8.9 อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของผู้หญิงที่เพิ่มมากขึ้นและสูงกว่าผู้ชายมีความน่าเป็นห่วง ทั้งที่ผ่านมา อัตราการสูบบุหรี่ของหญิงไทยต่ำมาก สถิติล่าสุดปี 2564 เพศชายสูบบุหรี่ ร้อยละ 34.7 เพศหญิง ร้อยละ 1.3 เนื่องจากการสูบบุหรี่ (ธรรมดา) ของหญิงไทยไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม อาจจะเรื่องค่านิยม รวมทั้งกลิ่นเหม็นของบุหรี่ธรรมดา หรือยาเส้น
ด้าน ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ข้อมูลการสำรวจจากทั่วโลก รวมทั้งไทย พบวัยรุ่นหญิงสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงเท่ากับหรือสูงมากกว่าวัยรุ่นชาย เป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก โดยเฉพาะวัยรุ่นหญิงเอเชีย รวมถึงไทย สาเหตุมาจากบุหรี่ไฟฟ้ามีกลิ่นหอม ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ผู้ผลิตใช้สารปรุงรสมากกว่า 16,000 ชนิด และไม่มีกลิ่นเหม็นจากการเผาไหม้ รวมทั้งอุปกรณ์สูบที่รูปทรงสวย ขนาดเล็ก สามารถพกซ่อนติดตัวได้ง่าย ทำผู้หญิงเข้ามาสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้ามีอำนาจเสพติดสูงมาก
ข้อมูลจากอังกฤษ ปี 2020 อัตราการสูบบุหรี่ของหญิงคลอดบุตรสูงถึงร้อยละ 10.4 จากจำนวนหญิงคลอดบุตร 6 แสนกว่าคน สะท้อนว่ามีหญิงตั้งครรภ์มากกว่า 6 หมื่นคน ไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์จนถึงคลอดลูก แม้รู้ว่าการสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์เป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ ตั้งแต่การเสี่ยงแท้งลูก ลูกคลอดออกมามีน้ำหนักตัวน้อย คลอดก่อนกำหนด เด็กตายหลังคลอด จนถึงเด็กคลอดออกมาพิการปากแหว่ง
“การที่เลิกสูบบุหรี่ไม่ได้แม้ระหว่างตั้งครรภ์ ทั้งที่อังกฤษมีโครงการช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์ที่สูบบุหรี่ให้เลิกสูบอย่างจริงจัง แสดงถึงความรุนแรงของการเสพติดนิโคตินในบุหรี่ ซึ่งการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นการเสพติดนิโคตินตัวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เริ่มมีงานวิจัยพบว่า บุหรี่ไฟฟ้าจะเลิกยากกว่าบุหรี่ธรรมดา เพราะแรงจูงใจในการเลิกของคนสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีน้อยกว่าคนที่สูบบุหรี่ธรรมดา จากการที่มีความเชื่อผิดๆ ว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่า จึงขอวิงวอนให้ผู้ปกครอง ครู และโรงเรียน รวมทั้งสื่อมวลชน เร่งให้ความรู้อันตรายของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่เด็กและยาวชน เพื่อป้องกันเยาวชน โดยเฉพาะเพศหญิงจากการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า” ศ.นพ.ประกิต กล่าว