ส.ก.ไม่ขอรอถึง 5 ปี จี้ กทม. ‘รับมอบอุโมงค์บางซื่อ-จตุจักร’ จากการรถไฟฯ – ฝากผู้ว่าฯ ส่องทุกเขต
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 4 ครั้งที่ 3 ประจำปีพุทธศักราช 2565 โดยมีวาระการพิจารณา เป็นเรื่องที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเสนอ คือเรื่อง เงินนอกงบประมาณ พ.ศ. …
ในตอนหนึ่ง น.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.เขตบางซื่อ พรรคก้าวไกล เสนอญัตติเรื่อง ขอให้สภากรุงเทพมหานคร ตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาการตรวจสอบสภาพและติดตามการเปิดใช้อุโมงค์ทางลอดถนนกำแพงเพชร 6 เลียบทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ-จตุจักร-วัดเสมียนนารี และทางลอดอื่นๆ ซึ่งเลื่อนมาจากวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มี ส.ก.หลายท่านร่วมอภิปรายในญัตติดังกล่าว อาทิ
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในเขตพื้นที่ตนก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน ตรงนี้ถือเป็นญัตติที่ดีผมว่าผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ควรจะต้องไปดูแลตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินกับพี่น้องประชาชน ยกตัวอย่างในอุโมงค์ทางลอดสี่แยกมไหสวรรค์ เป็นทางลอดที่แก้ไขปัญหาเดือดร้อนประชาชนทางด้านการจราจร และพบอีกอย่างว่าในอุโมงค์นั้นมีความมืด
“ท่านรองผู้ว่าฯ ที่กำกับดูแลโยธา ท่านดู มันไม่ควรจะเกิดขึ้นในอุโมงค์กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีสภาพอย่างนี้ สำนักโยธาควรต้องไปดูเช่นเดียวกัน เราจะเห็นว่าอันตรายมาก เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง ในแยกมไหสวรรค์ แต่อุงโมงค์แยกรัชดา-ราชพฤกษ์ ทำเสร็จไฟสว่าง วิ่งปลอดภัย ถ้ามืดอย่างนี้ สายไฟก็โดนตัดอีก เหมือนกันโดนขโมยสายไฟแน่นอน ตรงนี้อยากจะฝากว่า ไม่ใช่เฉพาะอุโมงค์ เฉพาะที่ผู้อภิปราย แต่อุโมงค์ต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯควรจะต้องไปดู” นายสุทธิชัยกล่าว
นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนไม่ได้อภิปรายสนับสนุน แต่พอได้รับคำตอบ จากนายวิศณุ รองผู้ว่าฯ ว่าการรถไฟฯ พร้อมที่จะส่งมอบแล้ว สำนักการโยธาไปดูแล้วยังบกพร่องอยู่ จึงไม่รับมอบ
“2 ปีแล้ว เพื่อให้เขาแก้ไข อีก 5 ปีก็ไม่ได้รับมอบหรอก เพราะว่าเขาไม่แก้ไขหรอก เพราะงบประมาณเขาทำเสร็จไปแล้ว กว่าจะตั้งงบประมาณใหม่ อย่างนี้อีก 5 ปีก็ไม่ได้รับมอบ ถ้ายังยืนยันว่าต้องรับมอบโดยสมบูรณ์ก่อน อย่างนี้มันไม่ถูก ถ้าหากว่าไม่รับมอบมา แล้วจัดการแก้ไขเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ ผมเชื่อว่ารอให้การรถไฟทำให้เรียบร้อยก่อนจึงจะรับมอบ เป็นคำตอบที่ผมว่า ‘รับรองเลย’ อีกหลายปีก็ไม่ได้รับมอบอุโมงค์นี้ เพราะว่าสภาพ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นท่อระบายน้ำ เป็นสิ่งที่เขาต้องมาทำใหม่ให้ กทม.รับมอบ หรือ กทม.ต้องรับมอบมาเพื่อให้ใช้ได้ ไม่ใช่บอกให้เขาทำเสร็จก่อนแล้วค่อยรับมอบ” นายพีรพลกล่าว
นายพีรพลกล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาแบบนี้ ไม่มีที่สิ้นสุดถ้าหาก คิดว่าหน่วยงานต่างๆ ต้องมอบอะไรที่เสร็จสมบูรณ์มาให้ กทม. ตนเรียนผ่านท่านประธานไปถึงฝ่ายบริหารเรามาแก้ปัญหา ไม่ใช่บอกคุณไปทำให้เสร็จแล้วถึงรับมอบ อย่างนี้ประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์เมื่อไหร่
“อยากฝากท่านประธานไปถึงฝ่ายบริหารว่า เราคิดใหม่เถอะ ทำให้ประชาชนได้รับความสุข ได้รับความสดชื่นจากที่ท่านมาบริหารกรุงเทพมหานคร” นายพีรพลกล่าว
จากนั้น นางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องขอบคุณที่มีการพูดถึงการรับมอบ เมื่อพูดถึงการรถไปทำให้อดคิดไม่ได้ว่ามีหลายพื้นที่ ไม่ใช่แค่อุโมงค์ ถนนรวมถึงโครงการต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฯ สิ่งเหล่านี้ การรถไฟฯ ไม่มอบไม่ยินยอม ถ้าอยู่ในพื้นที่อย่างเช่น ถนน กทม.ก็ไปดำเนินการไม่ได้ และปล่อยให้มีปัญหาอย่างนี้เรื้อรัง โดยเฉพาะถนนกำแพงเพชร 6 หรือเส้นใดก็ตาม ที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟ เขาไม่สนใจ แต่คนในพื้นที่ต้องใช้ เพราะฉะนั้นกรุงเทพฯต้องให้ความสนใจและหาแนวทาง ในการที่จะทำอย่างไร
“ฝากไปยังฝ่ายบริหาร เรื่องนี้ถ้าหน่วยงานชนกันอย่างเดียว แต่ไม่พยายามเป็นก้างปลาที่จะคุยกัน นี่ประเทศไทย เราต้องร่วมมือกัน เพราะกรุงเทพมหานครคือประเทศไทย ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกัน
นอกจากนี้ ยังมีการประปาด้วย กรุงเทพฯ ทำถนนหนทางอย่างดี ใช้งบประมาณอย่างดี การประปามาถึงปุ๊ปขุด ขุดๆ วางท่อเสร็จ แต่ตอนที่กลบปิด ไม่ได้ทำเหมือนเดิม กรุงเทพมหานครก็ต้องหาทางในการที่จะทำอย่างไร หรือตั้งเงื่อนไขอย่างไรหรือ นี่คือการทำให้เป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเรื่องของการประปา คุณมาทำก็ต้องทำให้เรียบร้อย หรือจะมาทำพร้อมกับเราก็ได้เวลาที่เราทำถนน เพราะตอนนี้พื้นที่โดยเฉพาะตรอกซอกซอยที่กว่าจะได้งบประมาณ ไปลงแก้ไขปัญหาให้เขานั้น ใช้เวลา ถ้าหากจะบูรณาการในเรื่องเหล่านี้แล้วควรทำให้ครบทุกเรื่องด้วย” นางกนกนุชกล่าว
ขณะที่ นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นญัตติที่มีปัญหาค่อนข้างเยอะ โดยหน่วยงานที่ไม่ใช่สังกัด กทม. พื้นที่ของการรถไฟฯ ค่อนข้างเยอะ อยู่ริมแนวทางรถไฟเยอะมาก เช่น ข้างๆ ทางรถไฟจะมีการบุกรุกแนวสลัมเยอะแยะ ทำให้ทัศนียภาพไม่สวยงาม นอกจากการรถไฟฯ กทม.ยังมีปัญหากับหน่วยงานนอกสังกัดอีกเยอะ ซึ่งตามพ.ร.บ.กรุงเทพมหานคร ปี 2528 กำหนดชัดว่า กทม.เรามีพื้นที่กว่า 1,600 กว่า ตร.ม. ความจริงพื้นที่ทั้งหมดน่าจะเป็นของเราตาม พ.ร.บ.
“พื้นที่ใน กทม.ที่หน่วยงานอื่นมาสร้างถนนได้ง่าย ที่เป็นของกรมทางหลวงชนบท หรือกรมอะไรก็ตามที่มา น่าจะไปคุยกับภาครัฐ ต่อไปในการสร้างหรือปรับปรุงอะไรก็ตามในพื้นที่ กทม.ทั้งหมด น่าจะโอนงบให้ กทม.ดำเนินการ ประสานงานผังเมืองอะไรก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น สะพานพุทธ ตรงนี้ก็ไม่ใช่ กทม. ตามที่หน่วยงานของเราเข้าไปพัฒนาด้านล่างทำเป็นสวนสาธารณะอะไรตรงนั้น ปัจจุบันจะทำอะไรต้องขออนุญาต” นายนภาพลกล่าว
นายนภาพลกล่าวต่อว่า กรณีอุโมงค์บางซื่อ-จตุจักรควรคุยให้ กทม.ดำเนินการเพื่อการแก้ไขปัญหาจราจร ซึ่งเป็นนโยบายของท่านผู้ว่าฯ กทม.อยู่แล้ว ถ้าเริ่มต้นนับหนึ่งให้ กทม.กับการรถไฟฯคุยกัน ให้ กทม.เข้ามาทำอุโมงค์ กทม.ก็ต้องเอางบประมาณไปดำเนินการ แต่เมื่อครู่ที่ได้รับคำตอบจาก นายวิศณุ รองผู้ว่าฯกทม. ตนไม่สบายใจเช่นเดียวกับ นายพีรพล
“ถ้าเขายกพื้นที่เรา ต้องเสียงบประมาณทำอุโมงค์ไม่รู้กี่ 100 ล้าน แต่กรณีนี้แค่ปั๊มน้ำพัง ใช้เงินเท่าไหร่ทำ เรามาเกี่ยงว่าคุณต้องทำปั๊มน้ำให้เสร็จก่อนถึงจะรับมอบได้ หรือว่าผมไม่แน่ใจ ตอนที่เขาส่งมอบเราครั้งแรก ปั๊มน้ำอาจจะอยู่ก็ได้แต่เรารับช้า เป็นไปได้ว่าเขาทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่มาโดนลักตอนหลัง กทม.ไม่รับแล้วเป็นไปได้ไหม ฉะนั้น ถ้าไม่ผิดกฎหมาย ขัดระเบียบ กทม.รับเถอะ แล้วมาดำเนินการต่อ ใช้งบประมาณไม่เท่าไหร่ กับแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน” นายนภาพลกล่าว
ด้าน น.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.เขตบางซื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนคิดว่าหากนำเรานำความสะดวกและความปลอดภัย ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เรื่องการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่นอกเหนือการดูแลของ กทม. เพื่อให้มีการเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าฝ่ายบริหารจะสามารถจัดการได้อย่างแน่นอน
