สธ.ยัน รพ.นครพนม ได้งบต่อเนื่องรองรับศูนย์กลางสุขภาพลุ่มน้ำโขง เล็งใช้เงินบริจาคเพิ่มศักยภาพ

สธ.ยัน รพ.นครพนม ได้งบต่อเนื่องรองรับศูนย์กลางสุขภาพลุ่มน้ำโขง เล็งใช้เงินบริจาคเพิ่มศักยภาพ

วันนี้ (23 ตุลาคม 2565) นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 8 กล่าวถึงกรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เชิงตั้งคำถามถึงการบริหารจัดการงบประมาณด้านสาธารณสุขของภาครัฐ หลังมีการจัดกิจกรรม One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ เพื่อระดมทุนจัดหาเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล (รพ.) นครพนม และ รพ.แขวงคำม่วน สปป.ลาว ว่า สธ.ไทย และ สปป.ลาว มีการลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข ตั้งแต่ปี 2559 ใน 14 ประเด็น เช่น การป้องกันควบคุมโรค การเฝ้าระวังโรคติดต่อ การพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการ ระบบบริการสุขภาพ ศักยภาพของบุคลากร เป็นต้น

“มีการจับคู่จังหวัดชายแดนของไทย กับ สปป.ลาว โดย จ.นครพนม เป็นจังหวัดคู่ขนานกับแขวงคำม่วน สปป.ลาว ในปีงบประมาณ 2565 มีความร่วมมือดำเนินงานสาธารณสุขชายแดนหลายเรื่อง ทั้งการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคติดต่อ การรักษาพยาบาลและการส่งต่อผู้ป่วย ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร สธ.จึงจัดสรรงบประมาณให้กับสถานบริการใน จ.นครพนม อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการ รวมถึงการพัฒนาเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพลุ่มน้ำโขง (R8- Medical Hub) และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประตูสู่อินโดจีน” นพ.ปราโมทย์ กล่าว

ผู้ตรวจราชการ สธ.เขตสุขภาพที่ 8 กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2565 จ.นครพนม ได้รับการจัดสรรงบลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์ จำนวน 137 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2566 อีก 138 ล้านบาท

“เฉพาะ รพ.นครพนม ปีงบประมาณ 2565 ได้รับการจัดสรรงบลงทุน จำนวน 4,730,000 บาท เพื่อใช้ในการพัฒนาเตียงผ่าตัดด้านศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์และกระดูกสันหลังชนิดเอกซเรย์ผ่านได้, กล้องส่องตรวจทางเดินหายใจ ชนิดโค้งงอได้ ชนิดวิดีทัศน์ พร้อมอุปกรณ์แสดงผลที่จอภาพ เพื่อช่วยในการตรวจทางเดินหายใจและใส่ท่อช่วยหายใจ และ เตียงผู้ป่วยสำหรับไอซียูปรับด้วยไฟฟ้าชนิด 4 มอเตอร์ รวมถึงได้รับการจัดสรรงบค่าเสื่อมครุภัณฑ์อีก 9.83 ล้านบาท ส่วนปีงบประมาณ 2566 ได้รับการจัดสรรงบลงทุน 1.5 ล้านบาท เป็นเครื่องตรวจกล้ามเนื้อด้วยคลื่นไฟฟ้า (EMG) และงบค่าเสื่อมครุภัณฑ์อีก 9.3 ล้านบาท และยังมีครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่อยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติจากรายการงบลงทุนโรงพยาบาลอีกหลายรายการ ขณะที่สถานการณ์เงินบำรุงของโรงพยาบาลในปีงบประมาณ 2565 มีความมั่นคงทางการเงินในระดับปกติ เงินบำรุงคงเหลือหลังหักหนี้แล้วอยู่ที่ราว 11.28 ล้านบาท” นพ.ปราโมทย์ กล่าว

Advertisement

นพ.ปราโมทย์ กล่าวอีกว่า รพ.นครพนม มีแผนพัฒนาศักยภาพการให้บริการโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์ โดย ปี 2566-2567 จะพัฒนาศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือดชายแดน ศูนย์ฉายรังสีรักษาโรคมะเร็ง
ศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก (โดยความร่วมมือของสถาบันพระบรมราชชนก และมหาวิทยาลัยนครพนม) และแผนกผู้ป่วยในด้านจิตเวชและยาเสพติด สำหรับการจัดกิจกรรมระดมทุนของบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ถือเป็นความตั้งใจดีที่ต้องการทำความดีช่วยเหลือสังคมผ่านการสนับสนุนให้กับโรงพยาบาล ซึ่งเงินบริจาคส่วนนี้จะถูกนำมาสมทบกับงบประมาณที่โรงพยาบาลได้รับจัดสรร เพื่อใช้จัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ตามความประสงค์ของผู้บริจาค และตามแผนการพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image