ปธ.แพทย์ชนบทยันหนุนกัญชาเพื่อการแพทย์ของ ภท. แต่ต้องไม่ใช้แบบเสรี หวังเพิ่มงบวิจัย
กรณี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มอบรองปลัด สธ.ให้สอบถามข้อเท็จจริงกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) กรณีชมรมแพทย์ชนบทโพสต์ข้อมูลงบประมาณปี 2566 ไม่พบงบวิจัยกัญชาทางการแพทย์ ของ สธ. ซึ่งสวนทางกับข้อมูลของ สธ.ที่ระบุว่า มีงบวิจัยกัญชาทางการแพทย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2566 มีรวมกว่า 80 ล้านบาท นั้น
วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2565) นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ชมรมแพทย์ชนบทออกมาโพสต์ข้อมูลดังกล่าว เนื่องจากเป็นข้อมูลที่เปิดเผยค้นหาได้ ใน พ.ร.บ.งบประมาณ ประจำปี 2566 ทำให้พบว่า สธ.ไม่มีการของบวิจัยเรื่องกัญชาทางการแพทย์
“ทางชมรมจึงโพสต์ข้อเท็จจริง เพราะเป็นห่วงเรื่องการศึกษากัญชาทางการแพทย์ เนื่องจากยังมีข้อจำกัดอยู่มากในการวิจัย อย่างไรก็ตาม หากจะมีการตรวจสอบข้อมูลที่ชมรมโพสต์ ผมก็เข้าใจ นพ.สสจ.” นพ.สุภัทรกล่าว และว่า ปัจจุบันการใช้กัญชาทางการแพทย์ยังมีข้อจำกัดในเชิงวิชาการอีกมาก ไม่มีงานวิจัยรองรับในเชิงประสิทธิภาพ จึงต้องมีงานวิจัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อแพทย์
ประธานชมรมแพทย์ชนบท ฃกล่าวว่า การที่ชมรมโพสต์ ก็เป็นการตั้งคำถามว่า เป็นการส่งเสริมกัญชาทางการแพทย์จริงหรือไม่ จึงมีการเปิดข้อมูลดังกล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊กชมรม จากนั้น นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ ได้คอมเมนต์ตอบกลับว่า กรมการแพทย์มีงบวิจัยกัญชาทางการแพทย์ ผ่านมา 2-3 ปี ใช้แล้ว 7 ล้านกว่าบาท แต่เป็นการบริหารงบจากส่วนอื่นที่จัดหามาเพื่อวิจัย
“ซึ่งทางชมรมก็ได้ขอบคุณที่ท่านมาให้ข้อมูล ขอย้ำว่า ที่เราโพสต์ เพราะอยากให้รัฐบาลสนับสนุนงบวิจัยกัญชาทางการแพทย์ในปี 2567 ควรสนับสนุนตรงนี้ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถใช้กัญชาทางการแพทย์ได้จริง กัญชาที่ปลูกมาก็จะเพื่อสันทนการ เพื่อเศรษฐกิจไปหมด ซึ่งวิชาชีพสุขภาพเราโอเคกับกัญชาทางการแพทย์อยู่แล้ว แต่ยังขาดหลักฐานการแพทย์ที่เป็นงานวิจัย” นพ.สุภัทรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ไม่ใช้งบประมาณจากสำนักงบฯ เพราะงานวิจัยกัญชาการแพทย์ต้องใช้เวลาหลายปี งบจากสำนักงบฯจะเป็นปีต่อปีมากกว่า นพ.สุภัทรกล่าวว่า งบประมาณวิจัยสามารถขอต่อเนื่องได้ ยกตัวอย่าง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มีการใช้งบประมาณประเทศในการวิจัย เพราะการวิจัยไม่จำเป็นต้องจบปีต่อปี
“อย่าง SCA จะนะ ก็เหมือนงานวิจัยใช้เวลา 18 เดือน ก็เป็นการข้ามปีงบประมาณได้ ฉะนั้น การวิจัยต้องจบใน 1 ปี ไม่ใช่ข้อจำกัดต่อการของบประมาณอยู่แล้ว ซึ่งคำถามต่อว่า ปี 2566 สธ.ได้ของบวิจัยกัญชาทางการแพทย์ไว้บ้างหรือไม่ จริงๆ อาจจะมี แต่อาจจะโดนตัดหรือไม่ ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่ทราบ” นพ.สุภัทรกล่าว
เมื่อถามว่า สธ.ได้ชี้แจงว่ามีงบส่วนกระทรวงโดยไม่ต้องขอสำนักงบฯ ประมาณ 80 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์แล้ว นพ.สุภัทรกล่าวว่า ถ้ามีสนับสนุนตรงนี้ เป็นเรื่องที่ยินดี ซึ่งก็ถือว่างบประมาณจำนวนมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นงบจากส่วนไหน
เมื่อถามถึงหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ชมรมแพทย์ชนบทออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องกัญชาอยู่เสมอ เพราะไม่สนับสนุนนโยบายพรรคของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) หรือไม่ นพ.สุภัทรกล่าวว่า เราเห็นด้วยกับกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งนโยบายพรรคภูมิใจไทยก็สนับสนุนเรื่องนี้
“นั่นแสดงว่าเราเห็นด้วยกับโยบายของพรรค คือ กัญชาทางการแพทย์ แต่เราไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรี ซึ่งทางภูมิใจไทยก็ย้ำว่าไม่สนับสนุนกัญชาเสรี นั่นแสดงว่า เราต่างสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ จึงไม่ได้มีปัญหากัน แต่ปรากฏการณ์ปัจจุบัน กลายเป็นกัญชาเสรี มีขายออนไลน์โจ่งครึ่ม ผลกระทบก็มีจริง มีผู้อยากลองใช้กัญชาก็เพิ่มขึ้นจริง ดังนั้น จะต้องมีการควบคุม โดย ชมรมเคยแนะนำแล้วว่า หากร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ยังไม่ผ่านการพิจารณา ทาง สธ.ต้องยุติสุญญากาศให้ได้ โดยให้มีการยกเลิก ประกาศปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 ซึ่งถ้ายกเลิกแล้ว ก็ไม่กระทบต่อกัญชาทางการแพทย์ที่ถูกยกเว้นให้ศึกษา วิจัยได้ แต่หาก พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ผ่าน เราก็ยินดี” นพ.สุภัทรกล่าว
เมื่อถามต่อว่า หาก พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ไม่ผ่าน ชมรมจะทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปยัง ภท. หรือ สธ. หรือไม่ นพ.สุภัทรกล่าวว่า ไม่ต้องทำหนังสือ ตอนนี้ได้ใช้วิธีสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก ผู้ใหญ่อ่านตลอดอยู่แล้ว
“การทำหนังสือทางการไม่เป็นประโยชน์อะไร เราพิสูจน์แล้วว่า หนังสือจะไปอยู่ในลิ้นชักเสมอ แต่ถ้าออกทางสื่อโซเชียล ท่านได้อ่านทุกบรรทัดแน่ๆ” นพ.สุภัทรกล่าว
