ปลัด สธ.เคลียร์ปมใช้หมอพร้อมเป็นฐานข้อมูลสุขภาพคนไทย ยันเข้าโหมดดิจิทัล ไม่เอื้อเอกชน

ปลัด สธ.เคลียร์ปมใช้หมอพร้อมเป็นฐานข้อมูลสุขภาพคนไทย ยันเข้าโหมดดิจิทัล ไม่เอื้อเอกชน

ตามที่ชมรมแพทย์ชนบทโพสต์ข้อมูลผ่านเพจเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นพร้อมตั้งคำถามกรณีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกกติกาใหม่ในการเก็บข้อมูลสุขภาพประชาชนกลุ่มเด็กเล็กทุกคน ผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน ผู้รับวัคซีนบาดทะยัก ให้มีการยืนยันตัวตนในการเข้ารับบริการผ่านแอพพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ซึ่งชมรมฯ ระบุว่า เป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้ให้บริการ และปัญหาไม่ใช่อยู่ที่หลักการต้องยืนยันตัวตนนั้น

วันนี้ (10 พฤศจิกายน 2565) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า โดยหลักการการพัฒนาข้อมูลสุขภาพดิจิทัล เป็นนโยบายที่ดำเนินการมาตลอด ทั้งหมดเป็นแผนภาพรวมในการพัฒนาระบบข้อมูลดิจิทัล

“ซึ่งปัจจุบันมีแอพพ์หมอพร้อม และยืนยันว่า เจ้าของคือ สธ. ที่ผ่านมา ใช้ได้ดีกับโรคโควิด-19 รวมทั้งแนวนโยบายให้ประชาชนมีข้อมูลสุขภาพส่วนตัว ซึ่งแอพพ์หมอพร้อม บันทึกได้หลายอย่าง ทั้งประวัติฉีดวัคซีน การตรวจ ATK นี่เป็นจุดเริ่มต้นให้ประชาชนมีข้อมูลสุขภาพส่วนตัว และในอนาคตหากมีข้อมูลสุขภาพส่วนตัวของเรา ก็จะถือไปรักษาที่ไหนก็ได้ ตรงกับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ของ สธ. ซึ่งแนวทางระบบถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทุกประการ ปัญหาอยู่ที่ ช่วงเปลี่ยนผ่านไม่ราบรื่น 100% แต่ภาพรวมไม่ได้เป็นประเด็นเชิงนโยบายอะไร อีกทั้งหมอพร้อม ยังเป็นระบบที่ยืนยันตัวตนว่า เป็นเจ้าของจริง เพราะตอนนี้เราต้องระมัดระวังเรื่อง PDPA ไม่ให้ข้อมูลหลุดไปส่วนอื่นๆ ซึ่ง สปสช.เห็นประโยชน์ส่วนนี้ และได้นำเรื่องบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบเบิกจ่ายของเขา ซึ่งภาคปฏิบัติจะพร้อมหมด 100% ไม่ได้ แต่เท่าที่ตามดูส่วนใหญ่ร้อยละ 70-80 ไม่ได้เกิดความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ระบุว่าง่ายกว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ที่เวลาบันทึกอะไรต้องเขียนกระดาน บางที่ต้องจ้างคนบันทึกข้อมูล แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่บันทึกโดยไม่ต้องเขียนกระดาษ มีความสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม” นพ.โอภาส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้ต้องสอบถามไปยังพื้นที่ของผู้โพสต์เรื่องนี้หรือไม่ ว่า ในจังหวัดมีปัญหาระบบส่วนใดเพื่อจะได้หาแนวทางแก้ไข นพ.โอภาส กล่าวว่า จะสอบถามไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) สงขลา ว่า ในพื้นที่มีปัญหามากหรือไม่ ได้ปฏิบัติตามนโยบายของ สธ.หรือไม่อย่างไร แต่ขอยืนยันว่า ส่วนใหญ่เกิดผลดี ส่วนผู้สูงอายุ คนไม่มีมือถือ ไม่ใช่ว่าเข้าไม่ถึงบริการ เพราะระบบยืนยันตัวตนให้ผู้อื่นใส่ข้อมูล หรือจดบันทึกลงกระดาษอีกทีก็ได้ ไม่ได้ตัดสิทธิอะไร

Advertisement

“เรื่องนี้เป็นนโยบายของ สธ. อย่างต่อเนื่อง ข้อมูลดิจิทัลพูดกันมานาน อยากให้มีแอพพ์ที่ใช้ง่าย ซึ่งตอนนี้ใช้ง่าย หมอพร้อมก็ใช้ง่าย และในอนาคตจะใส่ข้อมูลอื่นๆ เข้าไป ทั้งข้อมูลเจ็บป่วย เบาหวาน ความดัน เรื่องนี้เป็นเรื่องดี แต่อุปสรรคในบางคนอาจไม่ 100% แต่ก็ต้องปรับและให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่ยกเลิก และขอยืนยันว่า ระบบหมอพร้อม เป็นของ สธ. ไม่ได้เอื้อเอกชน” นพ.โอภาส กล่าว

เมื่อถามว่า ในต่างประเทศมีการดำเนินการระบบแบบนี้ใช่หรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วเขาใช้ระบบดิจิทัลกันหมดแล้ว

“ขณะนี้หมดยุคเขียนกระดาษแล้ว วาทกรรมหมอหน้าจอต้องเลิกแล้ว ปัจจุบันบุคลากร หมอ ยุคใหม่ใช้คอมพิวเตอร์กันหมดแล้ว เราต้องไปข้างหน้า เพื่อให้ประเทศพัฒนายิ่งขึ้น” นพ.โอภาส กล่าวย้ำ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image