ปธ.กมธ.แรงงาน วุฒิฯ ติดตามกระบวนการขนส่งสินค้าด่านพรมแดน เร่งขับเคลื่อนเขต ศก.นครพนม
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้า พร้อมรับฟังสภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขการดำเนินงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม โดยมี นายศรุต ดิสราธิคม หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากร บรรยายสรุปพร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน จ.นครพนม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ ณ อาคารคลังสินค้า ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) จ.นครพนม
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ในวันนี้คณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ได้ลงพื้นที่มายังด่านพรมแดนนครพนม เพื่อตรวจเยี่ยมดูกระบวนการขนส่งสินค้าทั้งขาเข้าและขาออกจากประเทศไทยที่ด่านนครพนม ซึ่งอยู่ติดกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) เพื่อขนถ่ายไปยังแขวงคำม่วน ฝั่ง สปป.ลาว และขนส่งต่อไปยังเวียดนาม
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้รับฟังสภาพปัญหา และติดตามความก้าวหน้า เนื่องจาก จ.นครพนม เป็นพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลทำให้การดำเนินโครงการต่างๆ ต้องหยุดชะงักลง และขณะนี้สถานการณ์โควิดได้คลี่คลายลงแล้ว ทำให้ภาคขนส่งโลจิสติกส์ที่ด่านพรมแดนมีปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่ง จ.นครพนม มีศักยภาพด้านพื้นที่ที่มีจุดผ่านแดนและจุดผ่อนปรนทางการค้าถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ จ.นครพนม เสมือนเป็นประตูเชื่อมความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศในเขตอาเซียน อีกทั้งสามารถเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้อีกทางหนึ่ง
“ผลพวงจากการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม ทำให้ปัจจุบันนครพนมเติบโตในเรื่องของการท่องเที่ยวแบบก้าวกระโดด ที่สำคัญทำให้กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าเข้าออกและระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ถือเป็นการยกระดับศักยภาพของจุดผ่านแดนถาวรและสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบันที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 เพื่อให้เกิดการจ้างงงานและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ ที่สำคัญจะเป็นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านให้เกิดความมั่นคงตามมา” พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว
