กทม.เตือนฝุ่นหนา 28 ธ.ค.นี้ ลุยลด PM2.5 ตรวจควันดำ-อู่ ขสมก. กองช่างกลฯ เคลื่อนที่ ‘เช็กสภาพรถ’

กทม.เตือนระวังฝุ่น 28 ธ.ค.นี้ ลุยลด PM2.5 อู่ ขสมก.มีนบุรี ตรวจควันดำ-ฉีดล้าง กองช่างกลฯ เคลื่อนที่ ‘เช็กสภาพรถ’

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 คาดการณ์ล่วงหน้าและแผนการดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม-1 มกราคม 2566

โดยวันที่ 26-29 ธันวาคมนี้ ค่าฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับอัตราการระบายอากาศอ่อนเพดานการลอยตัวของอากาศต่ำ

วันที่ 28 ธันวาคมนี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่ควรเฝ้าระวังทั้งพื้นที่ กทม. เนื่องจากสภาพเพดานการลอยตัวอากาศที่ต่ำ ประกอบสภาวะอากาศที่นิ่ง ลมสงบ อย่างไรก็ดี ประชาชนควรเริ่มเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่น ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 27 ธันวาคมนี้

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันนี้ กทม.ลงพื้นที่ปฏิบัติการลดฝุ่น PM2.5 ทั่วกรุง ตามนโยบายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ดังนี้

กองโรงงานช่างกล จัดหน่วยบริการตรวจสภาพรถยนต์เคลื่อนที่เพื่อลดมลพิษ PM2.5

ฝ่ายซ่อมบำรุง ให้บริการตรวจวัดปริมาณควันดำพร้อมตรวจสภาพรถราชการ แก่สำนักงานเขตลาดพร้าว มีรถเข้ามารับบริการทั้งสิ้นจำนวน 63 คัน

Advertisement

สำนักงานเขตทุ่งครุ ลงพื้นที่ฉีดพ่นละอองน้ำ ล้างฝุ่นที่จับอยู่บนผิวใบไม้ ทั้งไม้พุ่ม ไม้ยืนต้น ลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นดิน

เขตบางกอกใหญ่ ล้างทำความสะอาด ทางเท้า สะพานลอย และจุดขยะ บริเวณถนนอิสรภาพจากจากสะพานคลองมอญถึงสะพานเจริญพาศน์

เขตวัฒนา ล้างทำความสะอาดทางเท้า จุดพักขยะถนนสุขุมวิท ระหว่างซอยสุขุมวิท 55-59
เขตบางกะปิ ทำความสะอาด ฉีด ล้าง ขัด ในพื้นที่เขตบางกะปิอย่างสม่ำเสมอบริเวณ ซอยรามคำแหง 32 ไปจนถึง ซอยรามคำแหง 36

เขตบางเขน ล้างถนนพหลโยธิน ฝั่งขาเข้าจากหน้าร้านทองดีเยาวราช ถึงแฟลตทหารตรงข้ามธนาคารกรุงไทย และฉีดพ่นละอองฝอยเพื่อลดค่าฝุ่นละอองที่สะสมมาตลอดทั้งวัน

เขตบางกอกน้อย ล้างทำความสะอาดจุดผ่อนผัน บริเวณท่าน้ำศิริราช-พรานนก เพื่อความสะอาดของพื้นที่ นอกจากนี้ยังช่วยล้างฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ได้อีกทางหนึ่ง

 

เขตสัมพันธวงศ์ ล้างทำความสะอาดบริเวณถนนราชวงศ์ ตั้งแต่แยกเยาวราช ถึงท่าน้ำราชวงศ์เพื่อความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย และลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

เขตลาดกระบัง ล้างทำความสะอาดผิวจราจรและทางเท้า เริ่มตั้งแต่แยกไฟแดงมีนบุรีถึงสะพานลาดกระบัง ถนนลาดกระบัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก และนายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรการและการดำเนินการป้องกันมลพิษของรถโดยสารสาธารณะ บริเวณเขตการเดินรถที่ 2 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (อู่มีนบุรี) ถนนสีหบุรานุกิจ เขตมีนบุรี

โดยในการลงพื้นที่วันนี้มี นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตมีนบุรี องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และผู้ที่เกี่ยวข้อง นำตรวจเยี่ยมและให้ข้อมูล

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้ชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการควบคุมมลพิษของรถโดยสารสาธารณะ โดยมีมาตรการตรวจวัดเสียงและควันดำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ก่อนปล่อยรถโดยสารออกไปวิ่งบริการรับ-ส่งประชาชน ซึ่งหากรถโดยสารคันใดไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จะไม่ปล่อยออกไป และจะนำรถคันดังกล่าวเข้ากระบวนการซ่อมบำรุงต่อไป

ในส่วนของการตรวจวัดมลพิษ จะใช้เครื่องตรวจวัดควันดำด้วยระบบความทึบแสง โดยเร่งเครื่องยนต์อย่างรวดเร็วจนสุดคันเร่ง และคงไว้ที่ความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 2 วินาที ทำการตรวจวัดค่าควันดำ 2 ครั้ง ใช้ค่าสูงสุดที่วัดได้เป็นเกณฑ์ตัดสิน โดยอู่มีนบุรีได้กำหนดค่าควันดำที่ตรวจวัดได้จะต้องไม่เกิน 25% (ค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 30%) เพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศ ลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สำหรับค่ามาตรฐานควันดำ ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ.2564 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 13 เมษายน 2565 กำหนดค่ามาตรฐานควันดำตรวจด้วยเครื่องมือวัดระบบความทึบแสงต้องไม่เกิน 30% และตรวจด้วยเครื่องมือวัดระบบกระดาษกรองต้องไม่เกิน 40% ส่วน ค่ามาตรฐานเสียงระดับเสียงปลายท่อไอเสียรถยนต์ต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล

ทั้งนี้ พล.อ.นิพัทธ์ และนายพรพรหม ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการ แพลนต์ปูน สถานที่ก่อสร้าง อู่รถโดยสารสาธารณะ และตรวจวัดควันดำที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยกำชับผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image