อนุทิน เผย ไทยพร้อมรับนทท.ทุกประเทศ ไม่รัดเข็มขัดเฉพาะ “จีน” คาดช่วงแรกทยอยเข้า ไม่ถึงกับทะลัก

อนุทิน เตรียมนั่งหัวโต๊ะประชุม 3 กระทรวงฯ วันที่ 5 ม.ค.66 เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ผุดไอเดีย ฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ แบบเสียเงินเองให้ต่างชาติ ยัน ทีมควบคุมโรคทำงานไร้ความกดดัน พร้อมบาลานซ์สุขภาพ-เศรษฐกิจ ยังไม่ยกการ์ดสูง ไม่ต้องไล่ตรวจเชื้อที่สนามบิน

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากที่มีการผ่อนคลายให้เกิดการเดินทางมากขึ้น ว่า หลังจากที่ทราบว่าประเทศจีน จะผ่อนคลายเปิดประเทศ ทางประเทศไทยโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคมก็ประชุมร่วมกันทุกวัน มีการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้าประเทศไทยยังไม่มาก เพราะประเทศจีนยังมีเงื่อนไขหลายอย่าง เช่น ทำวีซ่า ตรวจ RT-PCR เข้าและออกประเทศ จึงไม่อยากให้สื่อสารว่านักท่องเที่ยวจีนทะลัก เพราะจะสร้างความกังวลให้ประชาชน เชื่อว่าจะเป็นการทยอยเข้ามา โดยประชากรจีนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 3 เข็ม รวมกับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นหลังการติดเชื้ออีก 60% ขณะที่ เชื้อโควิดที่พบในจีนและไทยยังเป็นสายพันธุ์เดียวกันอยู่ ฉะนั้น ถ้านักท่องเที่ยวจีนมาถึงไทยแล้วก็ต้องทำตามระเบียบคือ ซื้อประกันสุขภาพ เราก็พร้อมให้การดูแลเขา อย่างไรก็ตาม มาตรการของไทยไม่ได้กำหนดให้ต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางหรือเมื่อเดินทางมาถึงแล้ว แต่ถ้านักท่องเที่ยวมีการเตรียมพร้อมส่วนนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี

“เราคิดกันว่าจะควรจะมีการจัดบริการฉีดวัคซีนโควิดให้กับนักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์รับวัคซีน กรณีของชาวจีนที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคแล้วคนละ 3 เข็ม หากมาถึงไทยก็สามารถชำระค่าบริการทางการแพทย์เพื่อรับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าที่มีในไทยได้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่มากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ” นายอนุทิน กล่าวและว่า ถ้าเราเพิ่มมาตรการเยอะเกินไป ก็อาจทำให้นักท่องเที่ยวไม่สบายใจ ดังนั้น เราต้องหาจุดบาลานซ์ที่ลงตัว

นายอนุทิน กล่าวว่า การพิจารณาเรื่องมาตรการต่างๆ จากกรมควบคุมโรค ไม่ได้คิดคำนึงด้านสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว แต่คิดเรื่องของหลักเศรษฐกิจด้วย ซึ่งผู้ปฏิบัติงานออกมาตรการโดยปราศจากความกดดัน ทั้งนี้ การเตรียมความพร้อมของคนในประเทศคือ การฉีดวัคซีนอย่างน้อย 4 เข็ม สถานประกอบการก็ปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA+ ที่เราทำกันอยู่แล้ว ทั้งนี้ วันที่ 5 มกราคม 2566 จะมีการประชุมใหญ่เพื่อเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย

“เราคำนึงเรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้นคงไม่ต้องรัดเข็มขัดแน่นมาก ประกอบกันคนไทยได้รับวัคซีนมากแล้ว ติดเชื้อแล้วก็มียา มีสถานพยาบาล ดังนั้น การที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยก็ไม่ได้เป็นความเสี่ยงมาก ส่วนชาวจีนที่เข้ามา เราก็ต้องทำเหมือนนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศอื่น” นายอนุทิน กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image