สธ. เตือนผู้ปกครอง “สอนลูกกินเหล้า” หวังโตมาคอแข็ง เสี่ยงกระทบพัฒนาการสมอง

แพทย์ เตือนพ่อแม่นึกสนุก ให้ลูกกรึ๊บเหล้าหวังโตมาคอแข็ง เสี่ยงสูญเสียพัฒนาการทางสมอง สถิติเด็กในครอบครัวขาก๊ง โตมาติดเหล้าสูง 4 เท่า

เมื่อวันที่ 9 มกราคม นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สุรา หรือเหล้า คือ เครื่องดื่มที่มีเอทิลแอลกอฮอล์ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อดื่มสุราเข้าสู่ร่างกาย จะถูกดูดซึมและกระจายไปทุกส่วนของร่างกายภายในเวลา 5 นาที ในผู้ใหญ่ เมื่อมีการดื่มในช่วงแรก จะทำให้ร่างกายมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ที่ประมาณ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อมากกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะทำให้ผู้ดื่มเกิดอาการสับสน มากกว่า 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทำให้เกิดอาการง่วง สับสน ซึม มึนงง และถ้ามากกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป อาจทำให้สลบ ซึ่งการก่อพิษของแอลกอฮอล์ในเด็กกับผู้ใหญ่ไม่ต่างกัน เพียงแต่ในปริมาณการดื่มที่เท่ากันความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดของเด็กจะมากกว่าเนื่องจากน้ำหนักตัวเด็กที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ และโครงสร้างที่ป้องกันสารพิษในระบบไหลเวียนเลือดไปสู่สมองของเด็กพัฒนาการยังไม่เต็มที่ ทำให้สารพิษเข้าสู่สมองได้มากกว่าผู้ใหญ่ รวมไปถึงอวัยวะต่างๆ ตับและไตที่พัฒนายังไม่เต็มที่ ทำให้การขับสารพิษออกจากร่างกายได้ช้ากว่าผู้ใหญ่

ขอย้ำเตือน พ่อ แม่ ผู้ปกครองอีกครั้ง อย่าเพียงแค่นึกสนุก หรือมีความเชื่อผิดๆ ให้บุตรหลานดื่มแอลกอฮอล์รวมถึงเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์เพื่อในอนาคตจะได้คอแข็ง ซึ่งไม่ใช่เครื่องดื่มที่เหมาะสมให้เด็กดื่ม เพราะจะส่งผลต่อร่างกายของเด็กมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า ทั้งทำลายสมองและระบบต่างๆ ในร่างกาย ส่งผลระยะยาวต่อพัฒนาการทางสมอง จะทำให้เด็กสูญเสียความสามารถในการจดจำ ความคิดสร้างสรรค์ถูกทำลาย” นพ.มานัสกล่าว

ด้าน นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวว่า การดื่มสุราทำให้การหลั่งสารโดปามีน (dopamine) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีผลต่อการกดและทำลายสมองส่วนคิด ทำให้เด็กมีปัญหาเรื่องพัฒนาการของสมอง ส่งผลต่ออวัยวะสำคัญในร่างกาย ตับ ไตเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ซึ่งตับเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตกลูโคสไปเลี้ยงสมอง หากมีผลกระทบต่อตับ กลไกเหล่านี้ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ ทั้งนี้การที่ผู้ปกครองหรือคนในครอบครัวดื่มสุราให้เด็กเห็นเป็นประจำ แนวโน้มที่เด็กจะโตขึ้นมาเป็นนักดื่มมีมากกว่าปกติถึง 4 เท่า ยิ่งพ่อแม่ผู้ปกครองให้ลูกลองดื่ม ยิ่งเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้ลูกกลายเป็นนักดื่มเร็วยิ่งขึ้น

นพ.สรายุทธ์กล่าวต่อว่า เด็กควรจะต้องได้รับอาหารและสารอาหารที่ถูกต้อง ครบถ้วน เหมาะสมตามวัย ส่งผลต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการ และการพัฒนาสติปัญญา ทั้งนี้ หากประสบปัญหาเกี่ยวกับสุรา หรือยาและสารเสพติดสามารถขอรับคำปรึกษาเรื่องยาและสารเสพติดได้ที่ สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th หรือเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่ สบยช. จ.ปทุมธานี และโรงพยาบาล (รพ.) ธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image