อย. ร่วมตำรวจ เร่งตามหาแหล่งผลิตแชมพูปลอม เตือน ร้านค้าหัวใสซื้อของราคาถูกมาขาย อาจเจอความผิดด้วย แนะ ลูกค้าเช็กให้ชัวร์ก่อนซื้อ “ต้องมีฉลากภาษาไทย-แหล่งผลิต” ชัดเจน
จากกรณีที่ประชาชน โพสต์เตือนภัย ซื้อแชมพูยี่ห้อดังจากร้านค้าใกล้บ้านมาใช้ แล้วมีอาการคันศีรษะ และหนังศีรษะลอก จึงเอาอีกขวดมาเปรียบเทียบ เห็นความแตกต่างของเนื้อแชมพูชัดเจน เมื่อกลับไปสอบถามร้านที่ซื้อเจ้าของร้านให้ข้อมูลว่าซื้อแชมพูราคาถูกจากรถเร่ที่วิ่งมาขาย
เมื่อวันที่ 21 มกราคม ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า เจ้าหน้าที่ อย. และเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบหาแหล่งผลิตแชมพูปลอมดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และขอแนะนำร้านค้า ผู้บริโภค ให้เลือกซื้อเครื่องสำอางจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ มีหลักแหล่งแน่นอน ผลิตภัณฑ์ต้องมีฉลากภาษาไทย ระบุข้อความครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ ชื่อผลิตภัณฑ์และชื่อทางการค้า ประเภทหรือชนิดของผลิตภัณฑ์ ชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสม วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต ปริมาณสุทธิ ครั้งที่ผลิต เดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ คำเตือน และเลขที่ใบรับจดแจ้ง ในกรณีที่ซื้อผลิตภัณฑ์มาแล้ว หากพบว่าภาชนะบรรจุ หรือเนื้อผลิตภัณฑ์แตกต่างจากเดิมที่เคยใช้ สงสัยว่าจะเป็นเครื่องสำอางปลอม ด้อยคุณภาพ หรือเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ สามารถร้องเรียน แจ้งเบาะแสมายังสายด่วน อย. โทร.1556 เฟซบุ๊ก FDAThai ไลน์บัญชีทางการ @FDAThai อีเมล์ [email protected] หรือแจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
“เตือนผู้ประกอบการต้องมีความรับผิดชอบต่อสินค้าที่นำมาขาย อย่าเห็นแก่ผลิตภัณฑ์ที่ราคาถูกกว่าปกติ เพราะอาจเป็นสินค้าปลอม ควรซื้อผลิตภัณฑ์โดยตรงจากผู้ผลิต/ผู้นำเข้าหรือผู้ขายส่งที่น่าเชื่อถือ มีสถานที่ตั้งแน่นอน จะช่วยให้มั่นใจได้มากขึ้น หากมีปัญหาสามารถติดต่อกลับได้ และต้องเป็นเครื่องสำอางที่จดแจ้งเรียบร้อยแล้ว การนำเครื่องสำอางปลอมมาขาย มีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 กรณีฉลากแจ้งชื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือแหล่งผลิตที่มิใช่ความจริง ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีฉลากแจ้งเลขที่จดแจ้งที่มิใช่ความจริง ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ภก.วีระชัย กล่าว
