อนุทิน ลั่น “ไม่เคยเช็กบิลใคร ตายแล้วไม่วนเวียน” ปัดคำสั่งย้ายทิ้งทวนตำแหน่ง ตอกหน้าคนคิดไม่ดีกับกระทรวง ต้องแผ่เมตตาให้ เผย ใกล้หมดหน้าที่-ยุบสภา เตรียมขนของออกจากเก้าอี้ แต่ถ้ายังมีห่วงก็คงกลับมา ขอหมอบ ไม่สู้ก้าวไกล ขอทำงานสู้เพื่อปชช.
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็น นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (ผอ.รพ.) จะนะ และประธานชมรมแพทย์ชนบท ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบความไม่มีธรรมาภิบาลของกระทรวงสาธารณสุข ในการโยกย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน ว่า เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถ้าคิดว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมก็หาช่องทางไปร้องได้ ส่วนที่กล่าวว่าคนร้ายจะทิ้งร่องรอยไว้ ก็ต้องไปหาให้เจอ ตนมั่นใจว่าในกระทรวงสาธารณสุขมีแต่คนดี ไม่มีคนร้ายแน่นอน
“กระทรวงนี้คนไม่ดีอยู่ไม่ได้ เห็นๆ กันอยู่แล้วว่าคนไม่ดีต่อกระทรวงมีจุดจบอย่างไร ปลัดก็เกษียณตามอายุราชการ รัฐมนตรีก็อยู่ครบวาระ ก็แสดงว่าเข้ามาทำงานด้วยเจตนารมณ์ที่ดี” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า นพ.สุภัทร ออกมาระบุว่ายังไม่เห็นหนังสือคำสั่งย้าย และหากไม่ย้ายตามวันที่กำหนดในคำสั่งจะมีความผิดทางวินัยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องทางวินัยต้องถามท่านปลัดสธ. แต่ก็มีกำหนดอยู่แล้วว่าจะต้องย้ายไปวันที่ 3 ก.พ. ส่วนหนังสือตอนนี้ก็คงไม่ต้องดูแล้วมั้ง ผู้สื่อข่าวก็รายงานกันเยอะแล้ว ทั้งนี้ จะหากไม่ย้ายไปจะมีความผิดหรือไม่นั้น ตนตอบไม่ได้ ต้องให้ปลัดสธ.ที่เป็นผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น แต่ทำตามกฎหมายดีที่สุด
“ผมเชื่อว่าปลัดสธ.ทุกท่านในสมัยผมมีความยุติธรรม มุ่งเรื่องการทำผลงานให้ตกแก่ประชาชน ที่ผมทำงานกับทั้ง 3 ท่านมา ผมให้แต่นโยบาย แล้วทุกท่านก็ตอบสนอง ทำให้สิ่งที่รัฐมนตรีต้องการเห็นประโยชน์ต่อประชาชน ก็เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง รักษาไตฟรี มี รพ. ใกล้บ้านเข้าได้ทุกแห่ง ฉายรังสีรักษามะเร็งโดยไม่ต้องเข้าคิวหรือเดินทางไกล ก็มีเครื่องฉายรังสีทั่วทุกภาคของประเทศ การดูแลผู้สูงอายุ ได้เห็นการแจกแว่นตา ผ้าอ้อม ฟันเทียม มีคลินิกพิเศษ ผมก็ไม่รู้จะตำหนิปลัดของผมได้อย่างไร มีแต่ชื่นชม” นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตนและผู้บริหารสธ. ต่างคนต่างทำงาน โดยไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดผลงานเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคที่ตนเป็นรัฐมนตรี ร่วมกับผู้บริหารทุกคน ซึ่งประชาชนก็พิจารณาได้
“ส่วนคนที่ให้ร้ายกระทรวงก็ห้ามไม่ได้ ดีที่สุดต้องแผ่เมตตา” รมว.สธ. กล่าว
เมื่อถามถึงการวิจารณ์ระบุว่าการสั่งย้ายคนๆ คนเดียวทำให้ระบบสาธารณสุขวุ่นวาย นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ควรเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ผู้สื่อข่าวก็ถามเองว่า ทำไมคนๆ เดียวสร้างความวุ่นวาย แต่เท่าที่ดู สธ. ไม่มีความวุ่นวาย ยังให้ความร่วมมือ เป็นไปสงบเรียบร้อยดี
“ผมมันอาทิตย์อัสดงแล้ว เดี๋ยวก็ยุบสภาแล้ว ตอนนี้เริ่มเก็บข้าวของ ถ่ายโอนงานให้ปลัดสธ. เพราะในช่วงที่รักษาการ ผมจะไม่ทำอะไรที่เป็นเรื่องผูกพันธ์ให้คนอื่นต้องมาสานต่อ ก็จะทำงานประจำ ให้การสนับสนุนตามหน้าที่ที่มีอยู่” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าข้อสังเกตเรื่องการสั่งย้ายเกิดในช่วงที่จะยุบสภา นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่ต้องห่วงผมนะ ตายแล้วไม่วนเวียน ไปแล้วไปลับ หลังจากที่ผมพ้นรัฐมนตรีช่วยมา ก็ไม่เคยวนเวียนกลับมา ไม่ต้องห่วง หมดหน้าที่ผมก็ไปทำหน้าที่อื่น ไม่ต้องกังวลเรื่องเช็กบิลใคร ผมไม่เคยรบกวนลูกน้อง” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงความกังวลหลังจากที่หมดวาระ รมว.สธ. แล้วแต่ชนวนเหตุนี้ยังอยู่ ทำให้เกิดความวุ่นวายตามมา นายอนุทินกล่าวว่า “ถ้ามีความกังวลก็อาจต้องกลับมาดูอีกที” กล่าวพร้อมหัวเราะ และบอกว่า ก็ไม่อยากให้มีเรื่องต้องกัวล ตนเชื่อในระบบราชการ รมต.ทำเพียงแค่สนับสนุน โดยเฉพาะกระทรวงนี้เป็นกระทรวงเทคนิคต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง ดังนั้น ตนจึงให้การสนับสนุนมากกว่า และในตอนนี้ 3 เรื่องที่เกิดขึ้น คือ สุขภาพดี เศรษฐกิจดี และประเทศไทยมั่นคง ก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ตนตั้งใจตอนเข้ารับตำแหน่ง ก็ให้ประชาชนพิจารณา
เมื่อถามถึงประเด็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เสนอต่อประธานสภา ให้พิจารณาถอดถอนหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยอ้างว่าได้เข้าไปแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำ เรื่องการย้าย นพ.สุภัทร จะทำให้เกิดศึกระหว่างพรรคก้าวไกล กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่เจอสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แต่วันนี้จะแวะเข้าสภาแต่ไม่รู้จะล่มก่อนหรือไม่
“ผมหมอบตลอด พรรคภูมิใจไทยไม่สู้รบกับใคร เราสู้กับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน สู้กับความไม่ถูกต้อง สู้กับคนที่คิดไม่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่หากเกิดการพิสูจน์แล้วว่าข้อร้องเรียนของ นพ.สุภัทร ไม่เป็นความจริง จะมีการฟ้องร้องกลับหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “ผมว่ากระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้ค้าความ เรามีหน้าที่ดูแลสุขภาพประชาชน” ทั้งนี้ ตนได้เห็นความทุ่มเทของข้าราชการกระทรวง ก็มีความสบายใจและมั่นใจว่าผู้บริหารทุกท่านจะกำกับดูแลกลไกทุกหน่วยของกระทรวงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
