ภก.อนันต์ชัย ถก “วิจัยกัญชา” เดินหน้าต่อ เล็งใช้รักษามะเร็ง 3 ด้าน “สกัดโรคลุกลาม”

ภก.อนันต์ชัย ถก “วิจัยกัญชา” เดินหน้าต่อ เล็งใช้รักษามะเร็ง 3 ด้าน “สกัดโรคลุกลาม” ชี้ ปัญหาเร่งแก้ แพทย์ไม่กล้าสั่งจ่าย เหตุยังมีข้อมูลใช้น้อย แต่ ตปท.วิจัยแซงหน้า ผลิตยาออกตลาด

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน ประธานคณะอนุกรรมการด้านการศึกษา/วิจัยจากการใช้กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมของอนุกรรมการฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็นการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกัญชาทางการแพทย์ ว่า นับตั้งแต่มีการอนุญาตให้นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน มีงานวิจัยที่ดำเนินการเสร็จสิ้น จำนวนทั้งสิ้น 64 เรื่องและกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ 42 เรื่อง โดยงานวิจัยที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วจำนวนหนึ่งที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ เช่น การใช้สนับสนุนการบรรจุยาเข้าตำรับกัญชาสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ และการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร ซึ่งแผนงานการดำเนินงานของอนุกรรมการในปี 2566 คือ การนำผลงานวิจัยมาใช้ประโยชน์ทั้งการกำหนดนโยบาย การบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ และการกำหนดทิศทางการวิจัยกัญชาเพื่อตอบปัญหาสุขภาพของประเทศ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ

ดร.ภก.อนันต์ชัย กล่าวว่า วันนี้อนุกรรมการฯ สรุปกันได้ว่ามี 4 ประเด็นที่เราต้องดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกัน คือ 1.บูรณาการทำงานร่วมกับคณะกรรมการกำกับทิศทางการวิจัยประเด็นปัญหาวิกฤติสำคัญของประเทศ เรื่องกัญชา ซึ่งแต่งตั้งโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)  เพื่อให้เกิดการทำงานที่เป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด  โดยผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสุขภาพจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับคณะกรรมการกำกับทิศ  เพื่อหาแนวทางในการทำงานร่วมกัน 2.รวบรวมข้อมูลงานวิจัยที่ได้ดำเนินการไปแล้วและกำลังดำเนินการ เพื่อตอบคำถามสังคมถึงผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจและสุขภาพ ซึ่งจากการพิจารณาข้อมูลวันนี้ มีครึ่งหนึ่งของงานวิจัยที่ดำเนินการศึกษาผลกระทบ ที่ควรเร่งนำมาพิจารณาพูดคุยแลกเปลี่ยน และหาข้อสรุปเบื้องต้นเพื่อตอบคำถามของสังคมเบื้องต้น รวมถึงวิเคราะห์ช่องว่างการวิจัย เพื่อดำเนินการเติมเต็มให้ตอบข้อสงสัยของสังคมให้ได้ โดยในการประชุมครั้งถัดไปจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ศึกษาวิจัยเรื่องนี้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เพื่อหาข้อสรุปเบื้องต้นและจะแจ้งให้สังคมทราบ

ดร.ภก.อนันต์ชัย กล่าวต่อว่า 3.กำหนดทิศทางการวิจัยกัญชาของประเทศ โดยในวันนี้สถาบันกัญชาทางการแพทย์ได้นำเสนอทิศทางการวิจัยของยากัญชาในโรคมะเร็ง เนื่องจากโรคนี้เป็นสาเหตุการตายอันดับต้นของคนไทย ถึงแม้ยากัญชาจะถูกบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติในข้อบ่งชี้เรื่องการช่วยบรรเทาอาการในผู้ป่วยมะเร็งระยะท้าย แต่แพทย์ก็ยังสั่งจ่ายน้อย เพราะยังขาดหลักฐานทางวิชาการที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งในต่างประเทศเองนั้นมีการศึกษาวิจัยเรื่องนี้เพิ่มเติมมากขึ้น โดยพัฒนาสูตรยาให้มีความจำเพาะและวิจัยใน 3 ด้าน คือ ลดผลข้างเคียงจากยาเคมีบำบัด บรรเทาอาการและใช้ควบคุมการลุกลามของโรค ประเทศไทยก็ควรคิดเรื่องนี้จริงจัง เพราะตอนนี้ยามะเร็งเกือบทั้งหมดเราต้องนำเข้า 4.นำงานวิจัยสนับสนุนการใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยวันนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็ได้มานำเสนอแนวทางการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์เบื้องต้น ซึ่งในกระทรวงก็มีหลายหน่วยงานที่วิจัยและพัฒนายา ซึ่งทางอนุกรรมการจะเชิญมาประชุมกลุ่มย่อยหารือกัน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์จากการวิจัยสามารถขึ้นทะเบียนได้ทันที หลังการวิจัยเสร็จสิ้น

Advertisement

“การขับเคลื่อนทั้ง 4 ประเด็นนี้ เราจะบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยอื่นๆ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุดของทรัพยากรและเวลา ที่ต้องดำเนินการให้เร็ว เพราะตอนนี้ในหลายประเทศก็กำลังอนุญาตให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์เช่นเดียวกัน เราต้องใช้โอกาสในฐานะที่เป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีนโยบายขับเคลื่อนกัญชาเพื่อสุขภาพและเศรษฐกิจ” ดร.ภก.อนันต์ชัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image