บอร์ด สปสช. รับทราบ 7 ผลงานเด่นบัตรทอง ปี’ 65 เตรียมชง ครม.- รัฐสภา พิจารณา

บอร์ด สปสช. รับทราบ 7 ผลงานเด่นบัตรทอง ปี’ 65 เตรียมชง ครม.- รัฐสภา พิจารณา

วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่มี รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมแทน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ขอลาประชุมเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานบอร์ด สปสช.ได้รับทราบผลงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2565 ที่นำเสนอโดย นางลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการ สปสช. และมอบหมายให้ สปสช. เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐสภา ตามมาตรา 18 (12) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ที่กำหนดให้บอร์ด สปสช. ต้องทำรายงานผลการดำเนินงานเสนอเป็นประจำทุกปีภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันสิ้นปีงบประมาณ

นางลลิตยา เปิดเผยว่า การนำเสนอผลงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2565 ต่อ ครม.และรัฐสภา จะเป็นการเสนอผ่านรูปแบบวีทีอาร์ โดยมีประเด็นนำเสนอ 7 เรื่อง ที่เป็นผลการดำเนินงานหลักประกันสุขภาพให้กับประชาชน ประกอบด้วย 1.การร่วมจัดระบบบริการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 2. การขยายบริการและยกระดับบัตรทองให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 3.นวัตกรรมบริการสุขภาพวิถีใหม่ (New Normal) 4.การเพิ่มสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 5.การเข้าถึงบริการสุขภาพตามสิทธิประโยชน์ 6.ความพึงพอใจต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ 7.การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

นางลลิตยา กล่าวว่า สำหรับในปีงบประมาณที่ผ่านมา มีการจัดระบบบริการสุขภาพรูปแบบใหม่และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) หลากหลายรายการ อาทิ การมอบแว่นตาให้กับเด็กสายตาผิดปกติ ผ้าอ้อมสำเร็จรูปผู้ใหญ่ที่มีภาวะพึ่งพิงและผู้ที่มีปัญหากลั้นขับถ่าย เป็นต้น และยังรวมถึงมีนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเติมให้ด้วย ทั้งบริการผ่าตัดวันเดียวกลับ 65 รายการ และบริการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็กอีก 15 รายการ

“นอกจากนี้ ช่วงปีที่ผ่านมา มีประชาชนสิทธิบัตรทองเข้ารับบริการสุขภาพแบบผู้ป่วยนอกในหน่วยบริการต่างๆ มากถึง 167 ล้านครั้ง หรือเฉลี่ย 3.5 ครั้งต่อคนต่อปี ขณะที่ผู้ป่วยใน มีผู้รับบริการ 6.2 ล้านครั้ง สปสช.สนับสนุนการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมเพื่อบริการสุขภาพ พร้อมกับเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงเพิ่มความเข้มแข็งของระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ โดยเฉพาะเขตเมือง เพื่อให้ประชาชนรับบริการสาธารณสุขที่จำเป็นอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม” นางลลิตยา กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image