น่าห่วง! สธ.เผยวัยรุ่นไทยใช้ถุงยางอนามัยเพียง 80% ทำติดเชื้อเอชไอวีพุ่ง 22% เร่งชูแคมเปญ “รักปลอดภัยอยู่รอบตัว”

น่าห่วง! สธ. เปิดตัวเลขปี’65 วัยรุ่นติดเชื้อเอชไอวี 22% จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด เผยผลสำรวจ ใช้ถุงยางอนามัยเพียง 80%  เร่ง ชูแคมเปญ “รักปลอดภัยอยู่รอบตัว” ใช้ถุงยางเป็นปกติ พร้อมคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ฟรี ตลอดเดือน ก.พ.

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นเทศกาลที่คนแสดงความรักต่อกัน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนจะให้ความสำคัญกับความรักในช่วงวันวาเลนไทน์นี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมองว่าการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก ถือเป็นการแสดงความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันได้ กรมควบคุมโรค โดยกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงชูแคมเปญ “Love is All Around ให้รักที่ปลอดภัยอยู่รอบตัวเรา” โดยเน้นย้ำให้มี “รัก” ที่ปลอดภัย คือ 1.พกและใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นเรื่องปกติ โดยใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ กับทุกคน ทุกช่องทาง เลือกให้ถูกขนาด ใช้ให้ถูกขั้นตอน (Step) เก็บและทิ้งให้ถูกวิธี ป้องกันได้ทั้งการติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ 2.ให้สื่อสารเพื่อป้องกันให้เป็นเรื่องปกติ เพื่อให้เราและคู่กล้าพูดและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยโดยไม่เขินอาย กล้าที่จะสื่อสารเจรจาต่อรองให้มีรักที่ปลอดภัย

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ที่มีแนวโน้มการเกิดโรคสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากข้อมูลปี 2564 พบวัยรุ่นอายุ 15-24 ปี กว่า 8,000 คน ติดเชื้อโรคซิฟิลิสและหนองใน และยังพบสัดส่วนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ส่วนในปี 2565 พบวัยรุ่นและเยาวชนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อเอชไอวี ถึงร้อยละ 22.2 จากผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อเอชไอวีทั้งหมด เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี 2551 ที่พบร้อยละ 9.5 สอดคล้องกับข้อมูลอัตราการใช้ถุงยางอนามัยที่ยังคงต่ำ จากข้อมูลการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวีในปี 2562 กลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนมีอัตราการใช้ถุงยางอนามัยครั้งล่าสุดที่มีเพศสัมพันธ์ เพียงร้อยละ 80.3 และการใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอทุกครั้ง ยังมีอัตราที่ต่ำมาก โดยเฉพาะการใช้ถุงยางอนามัยกับแฟนและคนรัก มีอัตราไม่ถึงร้อยละ 40 ดังนั้น จึงต้องย้ำให้มีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ กับทุกคน ทุกช่องทาง เพื่อให้มีรักที่ปลอดภัย

Advertisement

นพ.ธเรศกล่าวต่อว่า สนับสนุนให้วัยรุ่นและเยาวชน เข้ารับการตรวจคัดกรองเอชไอวีและซิฟิลิสแบบสมัครใจ โดยข้อมูลผู้รับบริการทั้งหมดจะถูกเก็บเป็นความลับ เจ้าหน้าที่จะให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพ ประเมินความเสี่ยง และตรวจคัดกรองหาเชื้อ โดยการเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็รู้ผล หากผลตรวจยืนยันเป็นบวกหรือติดเชื้อ จะได้รับการส่งต่อเข้าสู่ระบบการรักษาทันที หากผลเป็นลบหรือไม่พบการติดเชื้อ จะได้รับบริการส่งเสริมการป้องกัน เช่น ถุงยางอนามัย ทั้งนี้ สามารถศึกษารายละเอียดและประเมินความเสี่ยงได้ที่ Line Official Account “Buddy Square” ID Line : @549vhjtt  นอกจากนี้ กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้จัดบริการตรวจคัดกรองโรคหนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส และเอชไอวี ฟรีตลอดเดือนกุมภาพันธ์ ที่ศูนย์การแพทย์บางรัก กรมควบคุมโรค ชั้น 9 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 0-2590-3291 และ 0-2286-2465

นพ.ธเรศกล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์โควิด-19 กับการมีเพศสัมพันธ์ช่วงวันวาเลนไทน์นั้น ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข เคยมีคำแนะนำต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ระบาด เช่น ปีที่ผ่านมามีคำแนะนำให้ตรวจเอทีเค ก่อนมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามสำหรับคำแนะนำในปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันคนไทยฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมทั้งมีผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ รวมแล้วคนไทยมีภูมิคุ้มกันกว่าร้อยละ 80  ขณะเดียวกันเราก็มีการใช้ชีวิตแบบปกติใหม่ที่ทุกคนรู้จักป้องกันตนเองเป็นอย่างดี ดังนั้นหากมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยก็สามารถใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ ได้เหมือนคนปกติ แต่หากรู้สึกเป็นไข้ ไม่สบาย ก็ควรรักษาตัวให้หาย ไม่ร่วมกิจกรรมใดๆ ที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image