สธ.เผยแนวโน้มพบติดโควิดเพิ่มช่วงสงกรานต์ แนะฉีดวัคซีน/LAAB ปกป้อง

สธ.เผยแนวโน้มพบติดโควิดเพิ่มช่วงสงกรานต์ แนะฉีดวัคซีน/LAAB ปกป้อง

วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2566) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้แนวโน้มพบผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิด-19 ลดลงทั้งแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย สำหรับประเทศไทย ข้อมูลวันที่ 19-25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 204 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 66 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 44 ราย และผู้เสียชีวิต 9 ราย แนวโน้มอยู่ในระดับคงตัว โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นกลุ่ม 608 ส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนเกิน 3 เดือน หรือไม่ได้ฉีดภูมิคุ้มกัน LAAB

นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พบติดเชื้อโควิด-19 ประปราย ซึ่งศักยภาพด้านการแพทย์ยังรองรับได้ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าอาจจะพบการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นได้ในช่วงสงกรานต์และปิดเทอมนี้ จึงเน้นการสื่อสารให้ประชาชนยังปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรค คือ ฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือฉีด LAAB หากมีอาการป่วยทางเดินหายใจให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และสวมหน้ากากขณะอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น ส่วนผู้ป่วยกลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือ LAAB หากป่วยให้รีบเข้ารับการรักษา รวมทั้งให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ขนส่งสาธารณะ สำหรับเด็กเล็กแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วยทางเดินหายใจ

“สธ.ยังคงเฝ้าระวังโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีการติดตามสถานการณ์ไวรัสและสายพันธุ์ต่างๆ ต่อเนื่อง ส่วนกรมควบคุมโรคได้จัดทำยุทธศาสตร์และนโยบายการฉีดวัคซีนในปีหน้า ขณะที่กรมการแพทย์ได้จัดทำแนวทางการดูแลรักษาสำหรับปีหน้าด้วยเช่นกัน ทั้งการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยา เวชภัณฑ์ และการให้การรักษา” นพ.โอภาส กล่าว

Advertisement

ปลัด สธ. กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังได้ติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดนก ที่พบผู้ป่วยและเสียชีวิตในประเทศกัมพูชา และให้ยกระดับการเฝ้าระวังโรคและคัดกรองผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดนกในสถานพยาบาล เพิ่มการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในชุมชน โดยแจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทราบ และดำเนินการสอบสวนป้องกันควบคุมการระบาดของโรค กรณีที่พบผู้ป่วยทางเดินหายใจที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดนก หรือสัมผัสใกล้ชิดสัตว์ปีกป่วยตาย หรือมีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดภายใน 14 วัน หรือกรณีพบผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงที่ไม่ทราบสาเหตุ หรือพบผู้ป่วยปอดอักเสบเป็นกลุ่มก้อน และหากพบสัตว์ปีกป่วยตายจำนวนมากโดยไม่ทราบสาเหตุ ให้มีการคัดกรองผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดสัตว์ปีกป่วยตายด้วย

“รวมถึงขอให้ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนหรือจังหวัดที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกจำนวนมาก ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายเพื่อซักซ้อมแผนการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนก หากพบสัตว์ปีกป่วยตายจำนวนมากโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือสงสัยไข้หวัดนก หรือพบผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดนกในพื้นที่ พร้อมทั้งให้สื่อสารกับผู้เลี้ยงสัตว์ปีก หากพบสัตว์ปีกป่วยตายจำนวนมากโดยไม่ทราบสาเหตุ ให้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ หน่วยงานปศุสัตว์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครปศุสัตว์ ทันที และให้งดชำแหละหรือนำไปรับประทานแบบไม่สุก หรือสุกๆ ดิบๆ” นพ.โอภาส กล่าวย้ำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image