ชัชชาติ ถกบีโอไอผุดห้องเช่าราคาถูกแนวรถไฟฟ้า

‘ชัชชาติ’ ถกบีโอไอผุดห้องเช่าราคาถูกแนวรถไฟฟ้า ‘อสังหา’ ชงรัฐบาลใหม่ซื้อบ้านหลังแรกได้ลดภาษี 10%

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 ว่า ที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญมากของการพัฒนาเมือง ซึ่งคนที่อยู่ในเมืองก็ต้องมีที่อยู่อาศัย ไม่ว่ากลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนเริ่มทำงาน และกลุ่มวัยทำงาน ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ทำโดยภาคเอกชน ต่อไปภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกัน โดยภาครัฐต้องกำหนดกฎระเบียบต่างๆ ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ประกอบการและชุมชนโดยรอบ กระบวนการต่างๆ ต้องโปร่งใส เช่น กระบวนการการทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ต้องชัดเจน ขณะที่ผังเมืองรวม ต้องปรับให้ทันสมัยและตอบโจทย์ของเมืองจริง ปัจจุบันกทม.อยู่ระหว่างปรับปรุงร่างใหม่ จะเสร็จปลายปี 2567

@จอผุดห้องเช่าราคาถูกรับผู้มีรายได้น้อย

นายชัชชาติกล่าวว่า โดยกทม.มีนโยบายจะสนับสนุนที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือเฟิร์สจ็อบเปอร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมฐานข้อมูลซัพพลายห้องเช่าแต่ละเขต และเมื่อสัปดาห์ก่อนได้คุยหารือร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอแล้วว่าจะมีแนวทางไหน เช่น อาจจะเป็นการให้เช่าในราคาไม่แพงประมาณ 3,000-5,000 บาท ระยะเวลา 5 ปี รองรับผู้ที่เริ่มทำงานมีที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน ก่อนจะซื้อบ้านอยู่อย่างในฝัน หลังมีรายได้มากขึ้นแล้ว

Advertisement

จะนำร่องในพื้นที่ จะกำหนดเป็นเมืองใหม่หรือเมืองย่อย ตามแนวรถไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการกระจายงานออกไป ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นบ้างแล้ว เช่น บางนา สุขุมวิท 101 เป็นต้น หรืออาจจะเป็นที่ดินของสำนักงานเขตหรือที่ดินรกร้าง อาคารร้าง ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาดำเนินการ เช่น ที่ดินสำนักงานตลาดกทม.บริเวณประชานิเวศน์ 1 ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่น่าสนใจ รวมถึงจะเป็นคนละรูปแบบและคนละตลาดกับผู้ประกอบการเอกชน

@เพิ่มระบบโบนัสจูงใจเอกชนร่วมพัฒนา

Advertisement

นายชัชชาติกล่าวว่า สำหรับการผลักดันจะใช้กลไกผังเมืองกำหนดการพัฒนา เช่น เพิ่มโบนัส FAR หรือ อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน เพื่อจูงใจเอกชนเข้ามาร่วมการพัฒนามากขึ้น รวมถึงอาจจะได้สิทธิประโยชน์จากบีโอไอเพิ่ม จะต้องหารือกับบีโอไอให้ตกผลึกต่อไป

แต่ก็ไม่ได้ง่าย เพราะต้องทำให้ต้นทุนถูก ถึงจะทำให้คนเช่าได้ในราคาที่ถูกด้วย ซึ่งกทม.ไม่มีที่ดินของตัวเอง อาจจะต้องหาที่ดินจากหน่วยงานอื่น เช่น ที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ที่ดินการรถไฟแห่งประเทศ หรือการเคหะแห่งชาติมีที่ดินย่านร่มเกล้ากว่า 600 ไร่จะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ จะออกเป็นผังเมืองเฉพาะขึ้นมา ส่วนเอกชนมีการหารือกันอยู่ เพราะเอกชนลงทุน รัฐดูกฎระเบียบ ต้องสร้างแรงกระตุ้นให้มีที่อยู่อาศัยมีคุณภาพและไม่ไกลจากที่ทำงาน รถไฟฟ้าก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง เพราะระบบฟีดเดอร์ยังไม่ครบถ้วน

“ส่วนนโยบายสนับสนุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านอื่นๆ เช่น เร่งตัดถนนสายย่อยเชื่อมการเดินทาง ลดการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ชั้นใน รวมถึงเร่งตัดถนนย่อยตามผังเมือง เพิ่มความคล่องตัวของการจราจร นอกจากนี้เพิ่มรถเมล์สายหลักและสายรองราคาถูกตลอดสาย เพิ่มสถานีชาร์จและสลับแบตเตอรี รองรับผู้ใช้รถไฟฟ้าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกทม. จะทำให้เกิดขึ้นจริง และให้เร็วที่สุด”นายชัชชาติ กล่าว

@อสังหาชงรบ.ใหม่ซื้อบ้านหลังแรกได้ลดภาษี

นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า สมาคมมีข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่ คือ 1.กำหนดระยะเวลาการให้วีซ่าต่างชาติตามราคาที่อยู่อาศัย เช่น ซื้อ 3-5 ล้านบาท ได้ 3-5 ปี เมื่อต่างชาติมาอยู่อาศัยในประเทศไทยมากขึ้น จะทำให้เกิดการใช้สอย 1 ล้านบาทต่อคนต่อปี

2.ทบทวนมาตรการแอลทีวีขอให้ผ่อนผันจากกลางปี 2566 ถึงปลายปี 2567 เพราะเศรษฐกิจยังเปราะบางอยู่ คนยังมีรายได้ไม่เต็มกระเป๋า ทำให้ความสามารถในการกู้ไม่ผ่านยังสูงโดยเฉพาะกลุ่มระดับกลาง-ล่าง หากปลดล็อกได้จะทำให้ยอดปฎิเสธสินเชื่อลดลงได้

3.ให้ดูแลค่าครองชีพในครัวเรือน เช่น ค่าเลี้ยงดูบุตรก่อนวัยเข้าเรียนชั้นประถม เช่น เดือนละ 3,000-4,000 บาทต่อเดือน

4.ช่วยสนับสนุนการมีบ้านหลังแรก เหมือนกับซื้อรถคันแรก ที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 10%ของราคาที่ซื้อ โดยในพื้นที่กรุงเทพฯราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท และต่างจังหวัดไม่เกิน 3 ล้านบาท เช่น คอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ไม่เกิน 3-4 ล้านบาท เป็นต้น อย่างเช่น บ้านราคา 3 ล้านบาท ได้ลดหย่อน 300,000 บาท หรือปีละ 100,000 บาท พร้อมกำหนดว่าผู้ที่จะใช้สิทธิได้ต้องมีรายได้ครัวเรือนอยู่ที่ 60,000 บาทต่อเดือน ห้ามเปลี่ยนมือใน 3 ปีและเป็นคนไทยเท่านั้น หากทำได้จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในประเทศ 90% และกระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น 30-40%

5.ขยายเพดานราคาบ้านบีโอไอ จากเดิม 1.2 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท ในแนวรถไฟฟ้าสายรอง เช่น สายสีชมพู สายสีเหลือง เนื่องจากปัจจุบันทั้งราคาที่ดินและะวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถพัฒนาได้ตามเพดานที่บีโอไอกำหนด ขณะนี้รอให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)และบีโอไอพิจารณา

“ขณะที่นโยบายของผู้ว่าฯชัชชาติจะพัฒนาห้องเช่าให้กับผู้มีรายได้น้อย ให้อยู่ใกล้แหล่งงานถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และเอกชนก็พร้อมสนับสนุน” นายพีระพงศ์​กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image