“อนุทิน” ร่วมถก เสวนา “กัญชาหลังเลือกตั้ง” ยันเจตนาดี พร้อมเดินหน้าต่อ “ศุภชัย” ชวนสายเขียวเทเสียงให้พรรคภูมิใจไทย ภาคปชช. ประกาศชื่อ 4 พรรคการเมืองปิดประตูกัญชา
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมในกิจกรรมเสวนาเรื่อง “ทิศทางกฎหมายกัญชา เพื่อสุขภาพและการแพทย์หลังเลือกตั้ง” โดยมี นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานกรรมาธิการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต, นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย, นพ.ประเสริฐ มงคลศิริ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองฉาง, รศ.ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย และ นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เข้าร่วมในการเสวนาด้วย
นายอนุทิน กล่าวว่า จากการได้ไปเยี่ยมเขตสุขภาพทั่วประเทศ ได้เห็น รพ. ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนผลิต ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชาเพื่อดูแลสุขภาพ ขณะเดียวกัน ทั่วประเทศเริ่มมีการศึกษางานวิจัยมีบันทึกเป็นรูปเล่ม ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะกระจายข้อมูลให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด เจตนารมณ์พรรคภูมิใจไทยอยู่ที่ร่างกฎหมาย ที่คนโจมตีกัญชา เพราะเหตุผลการเมืองล้วนๆ ยืนยันพรรคภูมิใจไทยนำกัญชามาทำสิ่งที่ดี
นายศุภชัย กล่าวว่า หลังร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เข้าสู่สภาวาระแรกแล้ว แต่มีขบวนการทางการเมืองเตะถ่วงเวลาการพิจารณาจนปิดสมัยประชุมสภาและยุบสภา ทำให้ พ.รบ.กัญชาฯ ต้องตกไปในที่สุด ทั้งๆ ที่ร่างฉบับดังกล่าว ผ่านความเห็นของผู้แทนราษฎรจากทุกพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล อย่างไรก็ตาม วันนี้พรรคภูมิใจไทยทำครบถ้วนตามที่เคยหาเสียงไว้ในปี 2564 คือ 1.ปลดล็อกกัญชาออกจากพ.ร.บ.ยาเสพติด 2.ปลูกกัญชาได้เสรี 3.สนับสนุนและส่งเสริมการใช้กัญชาเชิงเศรษฐกิจ หลังปลดล็อกออกมาแล้ว เราคิดว่าควรจะมีกฎหมายเฉพาะ จึงยื่นร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ดังกล่าว แต่เพราะกระบวนการทางการเมืองทำให้กฎหมายไม่เสร็จ จนเกิดคำอ้างว่า พรรคภูมิใจไทยปล่อยให้มีกัญชาเสรี ทั้งที่ในทางตรงกันข้าม หาก พ.ร.บ.กัญชาฯ แล้วเสร็จ ก็จะช่วยคุ้มครองสังคมให้เกิดความปลอดภัย ไม่ให้มีกัญชาเสรี และมีการใช้ประโยชน์กัญชาภายใต้ข้อบังคับทางกฎหมาย แต่กรณีที่ พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ผ่านสภา ทำให้เกิดการใช้กัญชาอย่างเสรีตามที่มีผู้ประสงค์ล้มกฎหมายเพื่อต้องการใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย
“วันนี้ พรรคการเมืองต่างๆ มีจุดยืนอย่างชัดเจน ว่า จะนำกัญชากลับไปอยู่ในยาเสพติด ประเภท 5 อย่างไรก็ตามพรรคภูมิใจไทยยังคงเดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องคนไทยทั้งประเทศต่อไป แต่หลังการเลือกตั้งกฎหมายกัญชาจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนนเสียง หากพี่น้องที่ทำเรื่องกัญชาไม่เทคะแนนเสียงให้ คะแนนของพรรคภูมิใจไทยก็จะขาดหายไป พลังของพรรคภูมิใจไทยที่จะออกไปต่อสู้เพื่อท่านก็จะน้อยลง พรรคภูมิใจไทยทำงานเรื่องกัญชา เพื่อประโยชน์ของประชาชน จึงขอแรงสนับสนุนทุกคะแนนจากพี่น้องชาวกัญชา” นายศุภชัย กล่าว
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ากัญชา เป็นแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ซึ่งขณะนี้ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ ปิดประตูกัญชา เอาไปเป็นยาเสพติด ถึงเวลาประชาชนเลือกอนาคตกัญชา เลือกพรรคที่อยู่ข้างกัญชา
ด้าน นพ.ประเสริฐ กล่าวว่า ทุกวันนี้ระบบสาธารณสุขเจอปัญหาคนไข้ล้นโรงพยาบาลส่วนใหญ่เป็นโรคเบาหวาน ไขมัน บางรายกินยามากกว่า 20 ตำรับ เท่ากับกินยา 1 คันรถกระบะต่อปี ตนมีความเห็นว่า กัญชา คือ ทางออกเดียวของระบบสุขภาพของประเทศไทย เพราะการกินยาแผนปัจจุบันมากๆ เสี่ยงกับปัญหาตับวายได้ แต่กัญชา เป็นพืชสมุนไพร โอกาสกินแล้วตายไม่มี ยกเว้นกินมากเป็นคันรถกระบะในครั้งเดียว คนไทยสามารถปลูกกัญชาเป็นพืชสมุนไพรในครัวเรือน ต้มกินดื่มเป็นทางเลือกในการรักษาสุขภาพได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันคนไทยป่วยด้วยโรคภูมิต้านตนเองกันมากขึ้น เช่น โรคเอสแอลอี (SLE) หรือ โรคพุ่มพวง โรคข้อรูมาตอยด์ โรคเกาท์ ฯลฯ ซึ่งผู้ป่วยมักรักษาด้วยยากดภูมิ 2-3 ตัว แต่อาการป่วยก็ไม่ดี แต่พบว่า ผู้ป่วยหลายรายที่หันมาใช้กัญชารักษา กลับมีสุขภาพดีขึ้นจนหายป่วยในที่สุด
ทั้งนี้ รศ.ดร.พิพัฒน์ กล่าวว่า ชาวอินเดียถือว่ากัญชาเป็นโอสถพระศิวะ โดยเชื่อว่าพระศิวะเนรมิตสมุนไพรพืชชนิดนี้ขึ้นมาเพื่อรักษาพระศอของพระองค์ ปัจจุบันกว่าครึ่งโลกมีการปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ รักษาโรคมะเร็ง โรคจิตเภท และอื่นๆ รวมทั้งในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อุตสาหกรรมอาหาร โดยกัญชาถูกยกย่องว่า เป็น ซุปเปอร์ฟู้ด ทำให้กระแสความนิยมการใช้กัญชาเติบโตเพิ่มขึ้นถึงปีละ 60-70% แต่กำลังผลิตได้แค่ 30% ทำให้กัญชาเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมาก
