สสส.-สคอ.ย้ำ! ก๊งแก้วเดียวเสี่ยงอุบัติเหตุ 2-6 เท่า ชวนเที่ยวสงกรานต์ดื่มไม่ขับ

สสส.-สคอ.ย้ำ! ก๊งแก้วเดียวเสี่ยงอุบัติเหตุ 2-6 เท่า ชวนเที่ยวสงกรานต์ดื่มไม่ขับ

วันนี้ (4 เมษายน 2566) สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย จัดแถลงข่าว “สงกรานต์ดื่มไม่ขับ กรึ่มๆ ก็ถึงตาย” ที่วัดพุทธปัญญา จ.นนทบุรี เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักขับขี่ปลอดภัย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์

นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน รณรงค์ขับเคลื่อน หนุนเสริม การบังคับใช้กฎหมาย สนับสนุนงานวิชาการและการปฏิบัติการ เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ น่าจะมีความคึกคักเป็นพิเศษของการท่องเที่ยวและเดินทางเพราะถือว่าวิถีชีวิตของคนไทย ณ ปัจจุบันได้เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว สสส. ขอเชิญชวน รณรงค์ “ดื่มไม่ขับ กรึ่มๆ ก็ถึงตาย” ต่อยอดจากเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา เน้นย้ำผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์แม้เพียงแก้วเดียวแล้วขับ ที่อาจส่งผลถึงชีวิต เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยง “ดื่มแล้วขับ” นอกจากนี้ ยังมีคลิปวิดีโอออนไลน์ “พ่อที่รัก” ที่สะท้อนการเกิดอุบัติเหตุอาจไม่ได้ส่งผลกระทบกับตัวเองแต่ยังกระทบถึงคนรอบข้าง และมีคลิปวิดีโอเรื่องเล่าจากผู้ที่ประสบอุบัติเหตุจากบิ๊กไบค์ และเหยื่อจากคนที่ขับย้อนศร นอกจากนี้ทางภาคีเครือข่ายได้จัดพื้นที่นำร่อง และขยายพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยลดปัจจัยเสี่ยงในถนนตระกูลข้าวกว่า 60 แห่ง และพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้ากว่า 100 แห่งทั่วประเทศ

Advertisement

นพ.ไพโรจน์กล่าวว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 พบว่า สาเหตุหลักเกิดจากการขับรถเร็ว และดื่มแล้วขับ โดยรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ขณะเดียวกัน การหลับใน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ไม่แพ้กัน และข้อมูลจากบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด พบว่า ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าครอบครัวถึงร้อยละ 51 และ ร้อยละ 53 ขับขี่ออกไปเสียชีวิตใกล้บ้านในรัศมีเพียง 5 กิโลเมตร เท่านั้น เพื่อทำให้เทศกาลสงกรานต์นี้ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและปลอดภัย สสส. และภาคีเครือข่าย ชวนคนไทยทุกคนใส่ใจการขับขี่อย่างปลอดภัย ดื่มไม่ขับ สวมหมวกกันน็อก คาดเข็มขัดนิรภัย พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทาง

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่า สงกรานต์ปี 2565 ได้สร้างความสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปแล้วถึง 278 ราย บาดเจ็บ 1,869 ราย เกิดผู้พิการรายใหม่ขึ้นทุกปี และคาดว่าสงกรานต์ปีนี้ยังน่าห่วงเช่นเดิม เนื่องด้วยปัจจัยหลายด้านที่บ่งชี้ว่าการเล่นน้ำสงกรานต์ปีนี้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะออกมาเล่นน้ำจำนวนมาก หลายพื้นที่เตรียมงานใหญ่ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ รวมถึงประชาชนที่เดินทางกลับบ้าน และท่องเที่ยว เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากดื่มแล้วขับ ขับเร็ว จึงอยากให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงสงกรานต์โดยเฉพาะคนที่ใช้รถใช้ถนน หากมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็เกิดอาการมึนเมาได้ มีผลออกฤทธิ์กดประสาท ทำให้สมองทำงานช้าลง เดินไม่ตรง ความคิดสับสน หากดื่มแล้วขับ “เพียงแก้วเดียว…ก็ถึงตายได้” และจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ

Advertisement

นายพรหมมินทร์กล่าวว่า การดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แล้วขับขี่ โอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเป็น 2 เท่า ส่งผลทางระบบประสาท และมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ หากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะเพิ่มความเสี่ยงถึง 6 เท่า สูญเสียการทรงตัว มึนงง เดินไม่ตรงทาง และหากมีปริมาณแอลกอฮอล์สูง 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป โอกาสเกิดอุบัติเหตุเสี่ยงสูงถึง 40 เท่า จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกตัวช้า ระบบในร่างกายทำงานแย่ลง ไม่สามารถควบคุมรถได้

“ขณะนี้ได้มีการเพิ่มโทษผู้เมาแล้วขับ คือ การทำผิดครั้งแรก มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท หากทำผิดซ้ำข้อหาเมาแล้วขับ ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000-100,000 บาท และศาลจะลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ ถูกพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่” นายพรหมมินทร์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image