‘หมอธีระ’ เผย 4 โรคร้ายเสี่ยงเสียชีวิตเพิ่ม จากฝุ่น PM2.5 จี้รัฐ จัดการ 4 เรื่อง

‘หมอธีระ’ เผย 4 โรคร้ายที่เสี่ยง เสียชีวิตเพิ่มจากฝุ่น PM2.5 จี้รัฐ ต้องจัดการ 4 เรื่อง

เมื่อวันที่ 10 เมษายน นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบภาวะฝ่น PM2.5 ว่า “ผลต่อสุขภาพระยะยาวจากมลภาวะฝุ่น PM2.5

1.โรคสมองเสื่อม ปริมาณความเข้มข้นของ PM2.5 โดยเฉลี่ยต่อปี ที่เพิ่มขึ้น “ทุกๆ 2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร” จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมมากขึ้น 4%

2.โรคหัวใจและหลอดเลือด การอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้น “ทุกๆ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร” จะทำให้มีอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันเพิ่มขึ้น 8% และมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเพิ่มขึ้น 23% นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหัวใจและหลอดเลือด 14%

Advertisement

3.โรคหลอดเลือดสมอง การอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้น “ทุกๆ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร” จะทำให้มีอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันเพิ่มขึ้น 13% และความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น 24%

4.มะเร็งปอด การอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้น “ทุกๆ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร” จะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น 16%

ยังไม่นับสัจธรรมเรื่องการทำให้เกิดปัญหาระคายเคืองระบบทางเดินหายใจส่วนบน หลอดลมอักเสบเรื้อรัง รวมถึงการกำเริบของโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น หอบหืด และหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง

Advertisement

…สำหรับไทยเรานั้น

นอกเหนือไปจากการที่รัฐบาลต้องจัดการแหล่งต้นตอของฝุ่น PM2.5 ทั้งในประเทศและนอกประเทศแล้ว ยังควรดำเนินการเรื่องสำคัญต่อไปนี้ด้วย

หนึ่ง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อให้ประชาชนลดความเสี่ยงต่อการสัมผัส PM2.5 ในแต่ละช่วงเวลาของปีที่เกิดวิกฤต ทั้งที่บ้าน ที่เรียน ที่ทำงาน ที่ค้าขาย

สอง การลงทุนโครงการศึกษาวิจัยขนาดใหญ่ระยะยาว เพื่อติดตามผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาวในประชากรทั้งภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นตรวจคัดกรองโรคทางเดินหายใจ มะเร็งปอด และบรรดาโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถตรวจพบโรคได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และเข้ารับการดูแลรักษาได้เร็ว

สาม การสร้างนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนาระบบ วิธีการ และอุปกรณ์ป้องกันทั้งระดับบุคคล และระดับชุมชน เพื่อช่วยในการจัดการดูแลตนเองและครอบครัว และเพื่อต่อสู้กับมวลฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ระบบ วิธีการ และอุปกรณ์ที่เข้าถึงได้ง่าย ราคาไม่แพง และมีประสิทธิภาพสำหรับประชาชนทุกคนทุกเศรษฐานะ

สี่ การประเมินผลกระทบทางเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขจากโรคภัยไข้เจ็บระยะยาวที่เกิดขึ้นจากวิกฤต PM2.5 เพื่อนำไปวางแผนจัดการระบบการเงินการคลัง เตรียมงบประมาณและทรัพยากรที่จำเป็น และจัดระบบบริการสาธารณสุขให้เพียงพอและพร้อมรับมือปัญหาสุขภาพของประชาชนในแต่ละพื้นที่ในอนาคต

อ้างอิง
1. Air pollution and dementia. BMJ. 5 April 2023.
2. Long‐Term PM2.5 Exposure and Risks of Ischemic Heart Disease and Stroke Events: Review and Meta‐Analysis. Journal of the American Heart Association. 30 December 2020.
3. Systematic review and meta-analysis of recent high-quality studies on exposure to particulate matter and risk of lung cancer. Environmental Research. May 2021.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image