สงกรานต์พิเรนทร์ ‘สาดโคลน-น้ำจิ้ม’ สธ.เตือน อาจผิด พ.ร.บ.ความสะอาดฯ แถม เข้าข่ายทำร้ายร่างกาย

บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ปี 2566 ที่ดูคึกคักมาก เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนไม่ได้ออกมาเล่นน้ำกันมานานกว่า 3 ปี เมื่อวันที่ 13 เมษายน เป็นวันแรกของการเล่นสงกรานต์ หลายพื้นที่จัดกิจกรรมเล่นน้ำ พร้อมมาตรการความปลอดภัยต่างๆ แต่พบว่ามีการแชร์ข้อความเตือนภัย เช่น เล่นน้ำสงกรานต์ ถ.ข้าวสาร มีการสาดน้ำจิ้ม เล่นน้ำท้ายรถกระบะ มีการสาดโคลนเกิดขึ้น

เมื่อวันที่ 14 เมษายน นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์โดยใช้น้ำผสมสี ผสมกับสิ่งปนเปื้อน เช่น น้ำจิ้มลูกชิ้น น้ำปลา หรือสาดโคลนใส่กัน ว่า การเล่นน้ำสงกรานต์ ควรจะใช้น้ำสะอาดที่ไม่ปนเปื้อนอะไร โดยเฉพาะการผสมสี ซึ่งจริงๆ แล้วไม่เหมาะสม เพราะเวลาที่เล่นน้ำสงกรานต์ ก็จะมีน้ำเข้าตา เข้าปาก เข้าจมูก และเลอะเสื้อผ้าที่จะต้องใส่เล่นน้ำตลอดทั้งวันหลายชั่วโมง ก็อาจเกิดความสกปรก เกิดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียได้ ส่วนการสาดโคลน ที่ทำให้เกิดความสกปรกในพื้นที่ หรือสกปรกกับผู้ที่ถูกสาดนั้น ก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ด้วย

“เป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะเราไม่ควรไปทำร้ายกัน และไม่ใช่ทำเพราะความสะใจ ตั้งใจทำให้เขาเกิดความสกปรก ต้องใจเขาใจเรา ถ้าเราโดนสาดโคลนบ้าง เราจะรู้สึกยังไง จึงอยากให้ทุกคนเล่นน้ำอย่างปลอดภัย ไม่ให้เกิดอันตราย โดยเฉพาะการดื่มแอลกอฮอล์ที่จะทำให้ขาดสติด้วย” นพ.อรรถพลกล่าว

เมื่อถามว่าการจงใจฉีดน้ำเข้าตาหรือปากคนอื่น นพ.อรรถพลกล่าวว่า ประเพณีสงกรานต์ เป็นวัฒนธรรมในการสาดน้ำ รดน้ำดำหัว ฉะนั้นการยิงน้ำใส่ใบหน้าคนอื่น ก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ซึ่งถ้าเกิดอันตรายต่อร่างกายก็จะมีความผิดทางกฎหมายฐานทำร้ายร่างกายได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image