ส.ก.ธนบุรี ช้ำใจ ชุมชนได้งบน้อย ช่วงโควิดตายเกลื่อน-เผาจนเตาแตก ไร้หน่วยงานแลเหลียว

ส.ก.ธนบุรี ช้ำใจ ชุมชนได้งบน้อย ค่ากาแฟยังไม่พอ วอนขอเพิ่ม ช่วงโควิดตายเกลื่อน-เผาจนเตาแตก ไร้หน่วยงานแลเหลียว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 เมษายน ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 3) ประจำพุทธศักราช 2566 โดยมี นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย นั่งเป็นประธานสภา กทม. พร้อมด้วยฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร มีผู้เข้าร่วมได้แก่ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้ง 50 เขต คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครทั้งคณะ ทีมที่ปรึกษาฯ ตลอดจนเลขานุการผู้ว่าฯกทม. ร่วมประชุม

ในตอนหนึ่ง นายจิรเสกข์ วัฒนมงคล ส.ก.เขตธนบุรี พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติเรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครพิจารณากำหนดแนวทางการเบิกจ่ายเงินค่าสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการชุมชนให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งเลื่อนมาจากวันพุธที่ 12 เมษายน 2566

นายจิรเสกข์กล่าวว่า ตามที่กรุงเทพมหานครฯ ได้ออกค่าบัญญติเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายชุมชน โดยมีการกำหนดอัตราค่าใช้จ่าย และเงื่อนไขการเบิกจ่ายเงินในแต่ละรายการ อาทิ ค่าอาหารว่าง และค่าเครื่องดื่มในการประชุมจำนวน 25 บาท/คน ค่าอาหารและเครื่องดื่มในการจัดกิจกรรมที่มีระยะเวลามากกว่า 6 ชั่วโมง จำนวน 50 บาท/คน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ค่าครองชีพสูงกว่ารายได้

Advertisement

นายจิรเสกข์อภิปรายต่อว่า เมื่อสมัยเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสวิด-19 ชุมชนดูแลชุมชนด้วยกันเอง ไม่มีหน่วยงานเข้ามารับผิดชอบ มีการเปิดศูนย์พักคอยเพื่อผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งยังรอรับของบริจาคจากแหล่งอื่นเพื่อนำแจกจ่ายคนในชุมชน ซึ่งทั้งหมดไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานใดทั้งสิ้น ซึ่งเป็นภาระที่หนักสำหรับชุมชนที่ต้องดูแลลูกบ้าน ประกอบกับได้รับเงินสนับสนุนเพียงแค่น้อยนิด

“เมื่อเกิดเหตุมีประชาชนตายกันจำนวนมาก เผาศพกันจนเตาระเบิด เตาแตก ในพื้นที่ผมแตกไปสี่วัด ซึ่งชุมชนได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาใหม่ ชุมชนเองก็ได้หาเงินมาสร้างกันใหม่และได้สร้างขึ้นมาใหม่เป็นศาลาที่สวยงาม ซึ่งตอนนี้ทางชุมชนได้เงินไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ทำในปัจจุบัน พอเผาเสร็จก็ทิ้งกระดูกไว้ที่วัดมากกว่า 500 ศพ ทางชุมชนต้องเอาไปทำบุญให้ และเอาไปลอยอังคารให้เรียบร้อย” นายจิรเสกข์กล่าว

นายจิรเสกข์เผยว่า ยุคปัจจุบันที่เกิดความย่ำแย่ทางเศรษฐกิจ ชุมชนได้รับเงินสนับสนุนน้อยมาก โดยชุมชนเล็ก 5,000 บาท ชุมชนกลาง 7,500 บาท และชุมชนใหญ่ 10,000 บาท ซึ่งไม่สมเหตุสมผลกับสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญในปัจจุบัน ตนจึงเสนอให้มีการปรับขึ้นเงินสนับสนุนแก่ชุมชน เป็นุชมชนเล็ก 10,000 บาท ชุมชนกลาง 10,500 บาท และชุมชนใหญ่ 20,000 บาท เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปเพิ่มในอัตราค่าอาหารจากเดิม 25 บาทต่อคน เป็น 50 บาท

Advertisement

“25 บาทในปัจจุบันนี้ กาแฟแก้วเดียวก็ไม่พอแล้วครับ 50 บาทก็จะได้กินได้แต่ข้าว น้ำก็ไม่ได้กินนะครับ” นายจิรเสกข์กล่าว

นอกจากนี้ นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง พรรคเพื่อไทย และนายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล ร่วมอภิปรายสนับสนุนญัตติดังกล่าวว่า เนื่องจากค่าครองชีพในปัจจุบันค่อนข้างสูง หากเป็นเมื่อก่อน เงินจำนวนนี้อาจจะสมเหตุสมผล แต่ในปัจจุบันควรจะต้องมีการปรับเพิ่มเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image