พรุ่งนี้! คิกออฟฉีด “วัคซีนดูอัล” สกัดโควิด-ไข้หวัดใหญ่ สธ.ยันบันทึกข้อมูลในหมอพร้อม

พรุ่งนี้! คิกออฟฉีด “วัคซีนดูอัล” สกัดโควิด-ไข้หวัดใหญ่ สธ.ยันบันทึกข้อมูลในหมอพร้อม

วันนี้ (2 พฤษภาคม 2566) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติให้วัคซีนโควิด-19 เป็นวัคซีนประจำปี โดยฉีดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ระบาดของโรคที่คาดว่าจะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะเริ่มฉีดพร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นนั้น แต่เนื่องจากประชาชนยังมีข้อห่วงกังวลในกรณีรับวัคซีนทั้ง 2 ชนิด ในเวลาเดียวกัน จึงขอทำความเข้าใจว่าจากผลการศึกษาและคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ระบุว่าวัคซีนทั้ง 2 ชนิด สามารถฉีดพร้อมกันในวันเดียวกันได้ โดยภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนั้น จะไม่ต้านทานกัน

“ฉะนั้น ตามที่ สธ.ได้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กลุ่มเสี่ยง โดยจะฉีดช่วงก่อนฤดูฝน หรือ ในเดือนพฤษภาคมของทุกปี ปีนี้จึงเป็นปีแรกที่จะเริ่มฉีดคู่กับวัคซีนโควิด-19 เป็นแบบดูอัล (Dual) ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. จะนำคณะผู้บริหาร สธ. คิกออฟกิจกรรม “วัคซีนคู่ สู้หน้าฝน” (Dual Immunity) ที่สถาบันบำราศนราดูร ในเวลา 11.00 น.วันที่ 3 พฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนพร้อมกัน 2 ชนิด มีฉีดอยู่หลายโรค ที่พบมากคือ วัคซีนเด็ก ที่จะฉีดพร้อมกันหลายโรค ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องใหม่” นพ.ธเรศ กล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับคำถามว่า จะมีการบันทึกข้อมูลวัคซีนดูโอโดสอย่างไรนั้น ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับวัคซีนทั้ง 2 ชนิด ได้ที่โรงพยาบาลของรัฐ แล้วทางเจ้าหน้าที่จะบันทึกข้อมูลไปที่ฐานข้อมูลเดิม คือ วัคซีนโควิด-19 ก็จะส่งข้อมูลบันทึกที่ MOPH Immunization Center (MOPH IC) ซึ่งอยู่ในส่วนกลาง

Advertisement

“ที่ประชาชนสามารถตรวจสอบได้คือ “หมอพร้อม” และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ก็จะบันทึกที่ฐานข้อมูลโรงพยาบาลนั้นๆ ส่วนความกังวลว่า หากฉีดวัคซีนดูโอโดสแล้ว พบอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดนั้น ประชาชนสามารถติดต่อสถานพยาบาลเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม วัคซีนทั้ง 2 ชนิด มีความปลอดภัยสูง ส่วนการฉีดแบบคู่กัน จริงๆ ปัจจุบันก็มีความพยายามศึกษาให้ฉีดยาในหลอดเดียวกันด้วย เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ประชาชน” นพ.ธเรศ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวัคซีนโควิด-19 นั้น ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสิทธิ รวมถึงคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยสามารถรับได้ฟรี ส่วนวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เบื้องต้น จะให้บริการฟรีตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ใน 7 กลุ่มเสี่ยงสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป (ให้บริการตลอดทั้งปี) 2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี 3.ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค คือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4.บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5.โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) 6.โรคอ้วน (น้ำหนัก > 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) และ 7.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้

ขณะที่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ล่าสุด สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ประกาศฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรีตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 โดยครอบคลุมผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นกลุ่มประชากรช่วงอายุที่มีความเสี่ยงอาการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ซึ่งสามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานพยาบาลตามสิทธิของผู้ประกันตน

Advertisement

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 23-29 เมษายน 2566 พบผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มอีกจำนวน 1,811 ราย เฉลี่ย 258 รายต่อวัน เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 157 ราย ต้องใส่ท่อหายใจ 79 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 10 ราย เฉลี่ย 1 รายต่อวัน รวมยอดผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาลสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นมา 8,382 ราย ผู้เสียชีวิต 288 ราย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image