สปสช.เผย 4 ปี ผู้ป่วย “บัตรทอง” เข้าถึงบริการทันตกรรมกว่า 4.4 ล้านคน

สปสช.เผย 4 ปี ผู้ป่วย ‘บัตรทอง’ เข้าถึงบริการทันตกรรมกว่า 4.4 ล้านคน

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะประธานคณะทำงานพัฒนาการเข้าถึงบริการด้านทันตกรรม กล่าวว่า จากการประชุมคณะทำงานฯ เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีการติดตามการดำเนินงานด้านบริการทันตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หนึ่งในประเด็นที่นำเสนอคือ การจ่ายค่าบริการทันตกรรมรักษาไปหน่วยบริการประจำและปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ หรือ “บริการทันตกรรมรักษาไปรับบริการระดับปฐมภูมิที่ไหนก็ได้” ตามหลักเกณฑ์การจ่ายค่าบริการสาธารณสุข การใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขในหน่วยบริการอื่นของผู้รับบริการกรณีที่มีเหตุสมควร (OP Anywhere) ตามนโยบายบริการปฐมภูมิไปที่ไหนก็ได้ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2566” ทั้งนี้ บริการทันตกรรมพื้นฐาน อาทิ การถอนฟัน อุดฟัน และขูดหินน้ำลาย เป็นต้น เป็นบริการทันตกรรมรักษาในระดับปฐมภูมิ ซึ่ง สปสช.ได้ดำเนินการตามนโยบายบริการปฐมภูมิไปที่ไหนก็ได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการด้านทันตกรรมที่จำเป็นสำหรับประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง

ทพ.อรรถพรกล่าวว่า หลักเกณฑ์การให้ “บริการทันตกรรมรักษาไปรับบริการระดับปฐมภูมิที่ไหนก็ได้” จะต้องเป็นการให้บริการประเภทผู้ป่วยนอกสำหรับหน่วยบริการอื่นของผู้รับบริการกรณีที่มีเหตุสมควร เช่น เมื่อเกิดอาการปวดฟัน ฟันผุ หรือฟันมีหินปูนเกาะ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาก่อนลุกลาม โดยหน่วยบริการด้านทันตกรรมทุกระดับในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่มารับบริการได้ทุกคน แต่ในการเข้ารับบริการทุกครั้งหน่วยบริการต้องให้ผู้ป่วยพิสูจน์ตัวตนยืนยันการใช้สิทธิโดยใช้บัตรประชาชน เป็นการป้อนข้อมูลรับบริการเข้าสู่ระบบ สปสช.

Advertisement

รองเลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ส่วนการเบิกจ่ายค่าบริการทันตกรรมรักษา นั้น สปสช.กำหนดให้เป็นการเบิกจ่ายชดเชยตามรายการบริการ (Fee Schedule) โดยหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถบันทึกข้อมูลเพื่อเบิกจ่ายค่าบริการผ่านระบบ e-Claim โดยอัตราค่าบริการทันตกรรมรักษาเป็นไปตามประกาศสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่าด้วยการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข กรณีการจ่ายตามรายการบริการ พ.ศ.2566

ทพ.อรรถพรกล่าวว่า การรับบริการทันตกรรมรักษาของประชาชนสิทธิบัตรทองพบว่ามีจำนวนผู้รับบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปี 2559 มีผู้เข้ารับบริการจำนวน 3,967,279 คน ปี 2560 เป็นจำนวน 4,304,620 คนปี 2561 เป็นจำนวน 4,377,469 คนและในปี 2562 เพิ่มเป็นจำนวน 4,491,321 คน โดย 5 อันดับแรกของการเข้ารับบริการทันตกรรมรักษาที่มากที่สุด คือ บริการถอนฟัน บริการขูดหินน้ำลายทั้งปาก บริการอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟันด้านเดียว บริการเอกซเรย์ฟัน และทันตกรรมดิจิทัล

Advertisement

“ข้อมูลที่ปรากฏนี้สะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทอง ในการไปรับบริการทันตกรรมรักษาไปรับบริการระดับปฐมภูมิที่ไหนก็ได้สามารถเพิ่มการเข้าถึงบริการทันตกรรมรักษาที่จำเป็นได้ ทั้งนี้ แม้ว่าโรคฟันผุหรืออาการปวดฟัน จะดูเหมือนเป็นเพียงภาวะเจ็บป่วยเล็กน้อย แต่หากไม่รับการรักษาก็อาจลุกลามและส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ นโยบายนี้จึงช่วยตอบโจทย์การใช้สิทธิบัตรทองสามารถไปรับบริการทันตกรรมรักษาได้ทุกที่” ทพ.อรรถพรกล่าว และว่า หลังจากนี้ คณะทำงานฯจะนำข้อมูลที่ได้นี้ รวมถึงข้อมูลการเข้าถึงบริการทันตกรรมในด้านต่างๆ ทั้งในส่วนของบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ข้อมูลประชากรต่อการรับบริการ จำนวนหน่วยบริการ มาพิจารณาเพื่อพัฒนาระบบและเพิ่มการเข้าถึงบริการด้านทันตกรรมสำหรับผู้มีสิทธิบัตรทองต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image