กรมควบคุมโรค แนะทำ 4 ข้อ ก่อนเข้าคูหาใช้สิทธิเลือกตั้ง

กรมควบคุมโรค แนะทำ 4 ข้อ ก่อนเข้าคูหาใช้สิทธิเลือกตั้ง

วันนี้ (11 พฤษภาคม 2566) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 โรคโควิด-19 ได้ถูกปรับให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง แม้ปัจจุบันจะไม่เกิดเหตุการณ์การระบาดขนาดใหญ่ และองค์การอนามัยโลกประกาศยุติภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขแล้ว แต่โรคโควิด-19 ยังไม่หายไปไหน ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายวัน และปัจจัยเสี่ยงของการแพร่เชื้อยังคงเกิดจากการรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะฉะนั้น มาตรการป้องกันตนเองส่วนบุคคลยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติอยู่เสมอ

ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ของประเทศไทย แต่ละหน่วยเลือกตั้งอาจมีการรวมตัวกันของประชาชนกันอย่างแออัด กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ 1.สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะออกไปเลือกตั้ง 2.ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ทั้งก่อนเข้าและหลังออกจากหน่วยเลือกตั้ง 3.ใช้ปากกาส่วนตัว (หากมี) และ 4.เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร” นพ.ธเรศ กล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน – วันที่ 6 พฤษภาคม 2566 พบผู้ป่วยรายใหม่รักษาตัวในโรงพยาบาล 1,699 คน เฉลี่ย 242ต่อวัน เสียชีวิต 10 คน มีภาวะปอดอักเสบ 219 คน และใส่ท่อช่วยหายใจ 113 คน

Advertisement

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่กองระบาดวิทยา คาดการณ์ว่าจะพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ควบคู่กับวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น ตามนโยบาย “วัคซีนคู่สู้หน้าฝน” (Dual Immunity) เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคก่อนที่จะเข้าสู่ระยะการระบาด วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสามารถลดอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต โดยฉีดพร้อมกันได้บริเวณต้นแขน 2 ข้างๆ ละเข็ม ซึ่งวัคซีนทั้ง 2 ชนิด มีความปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย และโดยเฉพาะ 7 กลุ่มเสี่ยง ให้รีบเข้ารับวัคซีนโดยเร็ว เนื่องจากกลุ่มนี้ หากป่วยจะมีอาการหนักกว่ากลุ่มทั่วไป ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2.เด็กเล็กอายุ 6 เดือน-2 ปี 3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการบำบัด เบาหวาน) 4.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 5. ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมถึงผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) 6 โรคอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) และ 7.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ โดยประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน

“นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงเวลาที่โรงเรียนเริ่มเปิดเทอม จึงขอความร่วมมือทั้งผู้ปกครองและครู ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด สถานศึกษาควรมีมาตรการคัดกรองและสังเกตอาการของเด็กก่อนเข้าเรียนทุกเช้า เพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อทางเดินหายใจ เช่น โควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ โรคมือ เท้า ปาก ที่มีอัตราป่วยสูงในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422” นพ.โสภณ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image