สธ.-สสส.-ศจย.จับมือภาคี ย้ำ! ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ มีสารพิษ เด็ก เยาวชน เป้าหมายหลักธุรกิจยาสูบ

สธ.-สสส.-ศจย.จับมือภาคี ย้ำ! ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ มีสารพิษ เด็ก เยาวชน เป้าหมายหลักธุรกิจยาสูบ

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และภาคีเครือข่าย จัดแถลงข่าวรณรงค์เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2566 โดยไทยกำหนดประเด็นรณรงค์คือ “บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษ เสพติด อันตราย” แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ความรุนแรง พิษภัย และอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบภาพรวมมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 32 ในปี 2534 เหลือเพียงร้อยละ 17.4 ในปี 2564 แต่นักสูบหน้าใหม่โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สาเหตุสำคัญมาจากบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 มีมติเห็นชอบการป้องกันควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า 5 มาตรการ 1.พัฒนาและจัดการองค์ความรู้ 2.สร้างความตระหนักรับรู้โทษ พิษภัยบุหรี่ไฟฟ้าแก่เด็ก เยาวชน และสาธารณชน 3.เฝ้าระวังและการบังคับใช้กฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า 4.พัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายสนับสนุนมาตรการป้องกันควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า 5.ยืนยันนโยบายและมาตรการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า

Advertisement

ด้าน Dr.Jos Vandelaer ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นบุหรี่ที่ไม่มีใบยาสูบเป็นส่วนประกอบ แต่มีสารนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดและมีสารเคมีอันตรายหลายชนิด องค์การอนามัยโลกจึงสนับสนุนให้ไทยออกกฎหมายห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการปกป้องสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนจากอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า

ทพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า เด็กและเยาวชน เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญของธุรกิจยาสูบ จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบเด็กและเยาวชนอายุ 15-24 ปี สูบบุหรี่ ร้อยละ 12.7 ของผู้สูบบุหรี่ทั้งหมด 9.9 ล้านคน ในจำนวนนี้ สูบบุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 0.26 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเยาวชนกลุ่มนี้หากเสพติดบุหรี่จะกลายเป็นลูกค้าของธุรกิจยาสูบไปอีกหลายสิบปี สสส.และภาคีเครือข่ายจึงให้ความสำคัญเรื่องการเสริมสร้างให้ประชาชนมีข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และการรู้เท่าทันกลยุทธ์ของธุรกิจยาสูบ เพื่อปกป้องสุขภาพประชาชนให้ปลอดภัยจากควันบุหรี่

Advertisement

“สสส.สนับสนุนทั้งการผลักดันนโยบายด้านการควบคุมยาสูบ การพัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการ และการรณรงค์สื่อสารสังคม เพื่อให้ประชาชนเกิดความตื่นตัว ตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า นำไปสู่การปรับเปลี่ยนค่านิยม ลด ละ เลิกสูบบุหรี่ และการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ โดยเฉพาะการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ในกลุ่มเด็กและเยาวชน รวมถึงกลุ่มผู้สูบหนักที่จำเป็นต้องได้รับการบำบัด และการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ในบ้าน ป้องกันเด็กและเยาวชนอาจเลียนแบบพฤติกรรม ส่งผลให้กลายเป็นนักสูบหน้าใหม่ในอนาคต” ทพ.สุปรีดากล่าว

ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ในนามสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เครือข่ายวิชาชีพแพทย์ในการควบคุมการบริโภคยาสูบ และเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ รวม 23 องค์กรวิชาชีพสุขภาพ จะช่วยกันรณรงค์คุ้มครองสุขภาพอนามัยประชาชนคนไทยจากโรคภัยที่เกิดจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และขอประกาศสนับสนุนให้รัฐบาลยืนหยัดกฎหมาย ห้ามนำเข้า ห้ามขาย ห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด และขอเรียกร้องไปยังพรรคการเมืองทุกฝ่าย ปกป้องสุขภาพประชาชน และดูแลลูกหลานไม่ให้ข้องแวะกับบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า

ผศ.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการ ศจย. กล่าวว่า ข้อมูลจากทั่วโลกบ่งชี้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าก่อให้เกิดผู้เสพติดนิโคตินในกลุ่มเยาวชนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติดอื่นๆ ปี 2565 จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศ 6,045 ราย พบว่า เยาวชนสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มลองสูบบุหรี่ธรรมดาเพิ่มขึ้น 5 เท่า และมีแนวโน้มสูบทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดาเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า ศจย.ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดการประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 21 เรื่อง คนไทยไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า ในระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน พ.ศ.2566 เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถึงประเด็นปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในไทย และร่วมหาทางออกในการปกป้องเยาวชนจากบริษัทผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าที่หลอกล่อโดยการตลาดล่าเหยื่อให้เป็นนักสูบหน้าใหม่ จากผลิตภัณฑ์ที่เป็นพิษอย่างบุหรี่ไฟฟ้า

น.ส.พัทราภรณ์ แจ่มทอง ประธานชมรม GenZ Wangpong โรงเรียนวังโป่งศึกษา จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในนามของกลุ่มตัวแทนเยาวชน GenZ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของบริษัทบุหรี่ รู้สึกไม่ดีกับผู้ใหญ่บางกลุ่มที่มุ่งเป้ามาที่เด็กและเยาวชน เพื่อหวังให้กลุ่ม GenZ มาใช้บุหรี่ซึ่งมีนิโคติน เป็นสารเสพติดมีฤทธิ์ต่อสมอง หากเยาวชนติดบุหรี่ อนาคตของชาติ ถือว่าน่าเป็นห่วงอย่างมาก อีกทั้งในปัจจุบันมีกลยุทธ์ของบริษัทบุหรี่ในการออกแบบบุหรี่ไฟฟ้าให้มีรูปร่าง และกลิ่นรสให้สูบง่าย ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเสพติดได้ไวกว่า รวมทั้งสูบได้สะดวกและบ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ ดังนั้น ในนามของตัวแทนเยาวชน ชมรม GenZ จะร่วมมือกันสร้างสมาชิก สร้างค่านิยมให้เยาวชน “เลือกไม่สูบ” เป็นแกนนำสร้างความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโทษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า และไม่สนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เพราะบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เยาวชนมีสุขภาพที่ไม่ดี สมองถูกทำลายด้วยพิษของบุหรี่ไฟฟ้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image