สสจ.ภูเก็ต เผย ยอดป่วยท้องเสียทะลุ 6 พันราย ติดเชื้อ ‘โนโรไวรัส’ รอผลตรวจโรงน้ำแข็ง 6 แห่ง พร้อมเรียกความเชื่อมั่น นทท.

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ระบาดโรคทางเดินอาหารและน้ำในจังหวัดภูเก็ตที่มีผู้ป่วยด้วยอาการท้องเสียเป็นจำนวนมาก ว่า แนวโน้มผู้ป่วยขณะนี้ลดลง ไม่พบมากเท่าช่วงก่อนหน้านี้ โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 5-12 มิ.ย. มียอดผู้ป่วยรวมสะสม 6,382 ราย ในจำนวนนี้ มีหลายช่วงอายุวัย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ พบผู้ป่วยมากสุดในวันที่ 8 มิ.ย. ซึ่งผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาทั้งโรงพยาบาล (รพ.) รัฐและเอกชน คิดเป็นร้อยละ 5 บางส่วนออกจาก รพ.แล้ว โดยการระบาดพบในหลายพื้นที่ทั้งอำเภอเมือง อำเภอกะทู้ และอำเภอถลาง เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะมาจากแหล่งน้ำและน้ำแข็ง จึงมีการเก็บตัวอย่างน้ำแข็ง ในโรงงานผลิตน้ำแข็ง 6 แห่ง ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต รวมถึงตัวอย่างน้ำใช้ เพื่อส่งตรวจหาเชื้อก่อโรค ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล คาดรู้ผลอีก 1 สัปดาห์

“อาการผู้ป่วยส่วนใหญ่ คือ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีไข้ โดยยังไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง แต่ผลจากการตรวจใน รพ. พบว่าร้อยละ 70 ติดเชื้อโนโรไวรัส ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วแม้ร่างกายได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย  สำหรับอาการเด็กนักเรียนที่มีอาการท้องเสียเป็นกลุ่มก้อน ก่อนหน้านี้เบื้องต้นส่วนใหญ่อาการดีขึ้นแล้ว” นพ.กู้ศักดิ์กล่าว

นพ.กู้ศักดิ์กล่าวว่า ทางสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้กำชับให้สถานประกอบการต่างๆ สถานที่จำหน่ายอาหาร ทั้งร้านค้า แผงลอย ดูแลความสะอาดให้ปลอดภัยรวมถึงในแหล่งน้ำใช้ หากมีความจำเป็นที่จะต้องนำน้ำมาใช้ให้ใส่คลอรีนก่อน อย่างไรก็ตาม สถานศึกษาให้เน้นมาตรการสุขาภิบาลอาหารในโรงเรียนอย่างเคร่งครัด ทำความสะอาดจุดเสี่ยงในโรงเรียน กำชับ รพ.ทุกแห่ง เตรียมยา เวชภัณฑ์ และเตียงให้พร้อมรองรับผู้ป่วย รวมทั้งมอบหมายให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เฝ้าระวังผู้ป่วยที่อาจเกิดขึ้นในชุมชน

เมื่อถามถึงความมั่นใจของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ นพ.กู้ศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจจะมีความกังวลอยู่บ้าง จึงจะมีการประชาสัมพันธ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สร้างความเข้าใจและป้องกันโรค โดยยืนยันว่า สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ แนวโน้มผู้ป่วยลดลง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image