โชว์ศักยภาพ ‘สตาร์ตอัพไทย’ ยกระดับความร่วมมือทางนวัตกรรม

โชว์ศักยภาพ ‘สตาร์ตอัพžไทย’ ยกระดับความร่วมมือทางนวัตกรรม

งานสตาร์ตอัพและอินโนเวชั่นไทยแลนด์เอ็กซ์โป 2023 (STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023) หรือ SITE 2023Ž ภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP – TOGETHER WE GROW ร่วมสร้าง หุ้นส่วนนวัตกรรมŽ เพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรม จัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ได้สร้างปรากฏการณ์ยกระดับความร่วมมือทางนวัตกรรม พร้อมโชว์ศักยภาพของระบบนิเวศนวัตกรรมและสตาร์ตอัพในไทย ที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นชาตินวัตกรรม

ทั้งนี้ ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์Ž ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยความสำเร็จของงาน SITE 2023 ที่จัดเมื่อวันที่ 22-24 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร ว่า ได้รับความสนับสนุนเป็นอย่างดีจากภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการอำนวยให้กิจการด้านนวัตกรรมในประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า

Advertisement

ดร.พันธุ์อาจ บอกว่า ปีนี้ได้รับความร่วมมือจากกว่า 250 หน่วยงาน ร่วมจัดแสดงผลงานกับองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมจาก 3 ธีมสำคัญ 47 หัวข้อ โดยวิทยากรชื่อดังกว่า 150 คน จาก 15 ประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ ยังได้รับความสนใจจากเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ที่เริ่มหันมาให้ความสนใจเที่ยวชมงานอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีในการพัฒนาสตาร์ตอัพสู่คนรุ่นหลัง โดยตลอด 3 วันของการจัดงาน มีผู้เข้าชมงานกว่า 15,000 คน และยังคงมีการเข้าชมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://site.nia.or.th/ มากกว่า 170,000 คน รวมทั้งมีสถิติการรับชมงานผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ของ NIA และ Startup Thailand ที่มากถึง 3.9 ล้านคนŽ ดร.พันธุ์อาจกล่าว

ดร.พันธุ์อาจ กล่าวย้ำถึงหัวใจสำคัญของ Innovation Partnership ที่เกิดขึ้นในงานว่า ได้แก่ 1.การร่วมกันเพื่อแสดงศักยภาพของระบบนิเวศนวัตกรรม (Ecosystem) ในประเทศไทยและได้เชิญชวนสตาร์ต

Advertisement

อัพจากต่างประเทศเข้าร่วมด้วย 2.การร่วมมือกันทุกภาคส่วน (Collaboration) คือ การทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานมหาวิทยาลัย, กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME), สตาร์ตอัพ และ Social Enterprise มีความเข้มแข็งขึ้น และ 3.Internationalization คือ ทำให้เห็นว่ากรุงเทพฯ มีลวดลายของการเป็น Innovation มากขึ้น และเป็นเบ้าหลอมนวัตกรจากหลากหลายภูมิภาคทั้งไทยและต่างชาติให้มาปักหลักที่ประเทศไทยมากขึ้น และขณะเดียวกัน ก็ส่งออกผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไปเติบโตสู่ตลาดต่างประเทศเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีบูธต่างๆ ที่รวบรวมนวัตกรรม ทั้งจากสตาร์ตอัพ, เอสเอ็มอี, Social Innovation ทั้งจากไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโครงการจาก NIA, นิลมังกร, Stream4Innovator, SPACE-F, Startups/ IDEs (Innovation Driven Enterprises), บูธจากพันธมิตรภาครัฐ และบูธจากต่างประเทศ กว่า 250 บูธ โดยแบ่งเป็นสินค้าและบริการด้านการเกษตรเพื่อความยั่งยืน อาหาร สุขภาพและการแพทย์ เทคโนโลยี AI, Robotics และ Immersive/IoT, โซลูชั่นสำหรับองค์กร และ Digital Transformation, นวัตกรรมเพื่อสังคม, Green & Clean Solution และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และเกิดการจับคู่ธุรกิจกว่า 65 ครั้ง

ดร.พันธุ์อาจกล่าวเพิ่มเติมว่า จากความทุ่มเทที่ผ่านมา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ Startup Universe ซึ่งปีนี้มีส่วนสำคัญอยู่ 3 ข้อ คือ 1.การกำเนิดของมหาวิทยาลัยที่พร้อมลงทุน ถือว่าเป็นสิ่งใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มหาวิทยาลัยเป็นทั้งผู้พัฒนาเทคโนโลยีตั้งบริษัทและลงทุนเองด้วย 2.บริษัทที่มีการรวมตัวเป็นสมาคมมีมากขึ้น หลายสมาคมเกิดขึ้นมาตามตัว sector ด้านเทคโนโลยีกำเนิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Metaverse, Blockchain และ 3.การกำเนิดธุรกิจสตาร์ตอัพสาขาใหม่ สาขาที่ 11 คือ Climate Tech ที่เน้นการแก้ปัญหาเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานทางเลือก

กิจกรรมทั้งหมดในงาน SITE 2023 ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชนของไทยในการร่วมกันสร้างระบบนิเวศสตาร์ตอัพที่เอื้อต่อการเกิดนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้ง เอสเอ็มอี, Social enterprise, มหาวิทยาลัย และหน่วยงานราชการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ในฐานะตัวแทนหน่วยงานที่ดูแลความสามารถการให้บริการสาธารณะภาครัฐ และ BOI ในฐานะหน่วยงานหลักที่ผลักดันเรื่องการระดมทุน ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาให้กรุงเทพฯ จ.เชียงใหม่ หรือเมืองหลักๆ สำคัญกลายเป็นศูนย์กลางในการทำนวัตกรรมและลงทุน และขอขอบคุณทุกภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ พร้อมเชิญชวนทุกคนไปร่วมขับเคลื่อนประเทศด้วยกัน ในงาน Startup x Innovation Thailand Expo 2024 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2567Ž ดร.พันธุ์อาจกล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image