รมว.สุชาติ สั่ง กสร.-สปส.เร่งช่วยครอบครัวลูกจ้างโดนท่อลมร้อนไหม้เสียชีวิต
วันนี้ (25 กรกฎาคม 2566) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีลูกจ้างโดนท่อลมร้อนไหม้ทั้งตัวเสียชีวิต ว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และว่า ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) พร้อมด้วยหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานเข้าพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ โดยพนักงานตรวจความปลอดภัย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ รายงานเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. ลูกจ้าง ชื่อ นายยศวรรธน์ พ้นภัย อายุ 22 ปี ตำแหน่งช่างเทคนิค ลูกจ้างของบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ ได้รับอุบัติเหตุจากการทำงานทำให้ลูกจ้างโดนท่อลมร้อนไหม้ทั้งตัว ยกเว้นหน้าอกและท้อง ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) เมืองสมุทรปากน้ำ (บางปู) จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 และเสียชีวิตในวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา
“หลังจากลูกจ้างเสียชีวิต ผมได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จ.สมุทรปราการ เร่งดำเนินการช่วยเหลือจ่ายสิทธิประโยชน์ให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตพึงได้รับ และให้ กสร.ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ต่อไป” นายสุชาติ กล่าว
ด้าน นายนิยม สองแก้ว อธิบดี กสร. กล่าวว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของ กสร. ได้กำชับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ (สสค.สมุทรปราการ) และศูนย์ความปลอดภัยในการทำงาน เขต 10 สมุทรปราการ เร่งตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม โดยพนักงานตรวจความปลอดภัย สสค.สมุทรปราการ ได้มีหนังสือเชิญนายจ้างพบในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ เพื่อสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า นายจ้างมีการปฏิบัติหรือฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 และกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ.2564 หรือไม่ ซึ่งถ้าหากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการ สปส. กล่าวว่า สปส. จ.สมุทรปราการ แจ้งว่าลูกจ้างผู้เสียชีวิต เป็นผู้ประกันตนตามกฎหมาย ทายาทจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน ดังนี้ เป็นค่ารักษาพยาบาลตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง ค่าทดแทนกรณีหยุดพักรักษาตัวอัตราเดือนละ 9,422 บาท เป็นเวลา 18 วัน (วันที่ 5-22 กรกฎาคม 2566) เป็นเงิน 5,653.20 บาท ค่าทำศพ 50,000 บาท ค่าทดแทนกรณีเสียชีวิตอัตราเดือนละ 9,422 บาท เป็นเวลา 10 ปี เป็นเงิน 1,130,640 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพกรณีเสียชีวิต จำนวน 19,072.03 บาท (ยังไม่รวมดอกผล) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,205,365.23 บาท
