ผอ.สนง.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ยัน “โฆษณาน้ำเมา” มีอิทธิพลต่อการดื่ม รอรัฐบาลใหม่พิจารณา
วันนี้ (16 สิงหาคม 2566) นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเรียกร้องให้เกิดการแก้กฎหมายเรื่องการห้ามโฆษณาแอลกอฮอล์ เพื่อเปิดโอกาสให้กับแอลกอฮอล์พื้นบ้าน ว่า กฎหมายการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีจุดประสงค์เพื่อลดการเข้าถึง ลดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ต้องยอมรับว่าการโฆษณามีอิทธิพลต่อผู้บริโภคพอสมควร ซึ่งเราจะต้องชั่งน้ำหนักกับเรื่องผลเสียต่อสุขภาพด้วย ทั้งนี้ พระราชบัญญัติ (พรบ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ได้เขียนเรื่องการโฆษณาไว้ยืนหยุ่นระดับหนึ่ง และมีการควบคุมมาตลอดระยะเวลา 10 กว่าปี แต่ก็ยังเห็นอัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังสูงขึ้น ฉะนั้น แม้จะมีความพยายามเบรกการโฆษณาไว้เท่าไหร่ แต่ก็ยังมีอิทธิพลต่อการบริโภคที่มากขึ้น
“ตัวเลขการเก็บภาษีของปีที่ผ่านมา เฉพาะเบียร์ก็สูงถึง 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาจากยอดขายที่สูงถึง 3-4 แสนล้านบาท ทำให้ผู้ผลิตต่างอยากมีส่วนร่วมเพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ แต่สิ่งสำคัญคือการทำอย่างไรไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค ซึ่งถ้าเราเข้าใจ กฎหมายไม่ได้ห้ามดื่ม ห้ามจำหน่าย แต่การควบคุมไม่ให้มีการโฆษณา เป็นกุศโลบายหนึ่งที่ช่วยลดการเข้าถึง ลดการบริโภค” นพ.นิพนธ์ กล่าวและว่า เราอาจจะบอกให้ดื่มอย่างรับผิดชอบแต่ต้องถามว่าผู้ขายต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ ดังนั้น ต้องทำควบคู่กัน
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการปรับปรุงกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นพ.นิพนธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังติดปัญหาเล็กน้อย ทางกฤษฎีกาท้วงติงให้มีการทบทวนบางเรื่อง ซึ่งต้องรออาศัยรัฐบาลใหม่ว่าจะเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ หรือมองว่าเรื่องนี้เป็นการกีดกัน แล้วจะโดนยกออกไป แต่เราก็คงไม่ล่วงละเมิดอำนาจรัฐบาลใหม่ แต่ในแง่ของการปรับปรุงก็พยายามทำให้สอดรับด้วยการบอกว่าทุกอย่างไม่ได้ใช้วิจารณญาณของเจ้าพนักงาน และเพื่อลดผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เมื่อถามถึงการปรับปรุงกฎหมายมีเรื่องอะไรเป็นสำคัญ นพ.นิพนธ์ กล่าวว่า ในความกังวลเรื่องการปรับเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในกฎหมายปรับปรุงยังคงเดิมไว้ไม่ได้มีการแก้ไข เพียงแต่มีคำสั่งจากคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พ.ย.2515 ที่ระบุว่า “กำหนดห้ามการดื่มสุรา ณ สถานที่ขายสุราในกำหนดเวลาห้ามจำหน่ายสุรา” ซึ่งการระบุไว้ในกฎหมายปรับปรุง ก็เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศของกรมการปกครอง
“มีแนวคิดให้ขายแอลกอฮอล์ได้ 24 ชั่วโมง แต่เราพบว่า ช่วงเวลาที่ห้ามขายคือ 14.00-17.00 น. ถ้าคนเริ่มกินได้ตั้งแต่ช่วงนี้ ก็จะต่อเนื่องไปช่วงเย็น แล้วเกิดอุบัติเหตุในช่วงดึก แต่การกำหนดเวลา ก็จะช่วยลดการเข้าถึงในบางเวลา ไม่ได้ห้ามตลอด เพราะกฎหมายไม่สามารถล่วงละเมิดสิทธิของบุคคลได้” นพ.นิพนธ์ กล่าว
